แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ร่วมกับพื้นที่ภาคีเครือข่ายภาคกลาง ดำเนินกิจกรรมติดตามความก้าวหน้าโครงการอย่าปล่อยให้เด็กอ้วน (ลดหวาน มัน เค็ม เพิ่มผัก และผลไม้) ณ ห้องประชุม โรงเรียนวัดทองประดิษฐ์ ตำบลบางเลน อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี
การตรวจเยี่ยมผลการดำเนินกิจกรรมติดตามความก้าวหน้าโครงการฯ ครั้งนี้ นำโดย ดร.ดนัย หวังบุญชัย ผู้จัดการแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส., ผู้ทรงคุณวุฒิ สสส., คณะทำงาน และผู้ประสานงานโครงการฯ ได้รับการต้อนรับจากนางลักขณา ใจเที่ยงกุล ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนวัดทองประดิษฐ์ พร้อมคณะครูและนักเรียน
คณะตรวจเยี่ยมได้ชมผลงาน รายการความก้าวหน้า และผลการดำเนินโครงการ โดยผู้รับผิดชอบโครงการฯ ทั้งนี้ ในระยะที่ 1 ประจำปี 2567 คณะตรวจเยี่ยมได้สัมภาษณ์คณะคุณครู และนักเรียนแกนนำ พร้อมทั้งให้คำแนะนำในเรื่องทิศทางการทำงานสนับสนุนของ สสส. และกล่าวให้กำลังใจในการดำเนินงานโครงการฯ
โรงเรียนวัดทองประดิษฐ์ จังหวัดสุพรรณบุรี ได้เข้าร่วมกับโครงการอย่าปล่อยให้อ้วน ฯ ครั้งแรกในปีที่ 5 นี้ ในชื่อโครงการ "ขุนช้างขุนแผน แดนลดพุง" ดำเนินการกิจกรรมระยะที่ 1 อาทิ กิจกรรมขุนช้างถวายฎีกาลดพุง โดยมีเล่ม ฎีกาลดพุง (สมุดบันทึกสุขภาพ on hand) จัดทีมเด็กกลุ่มเป้าหมายเพื่อแข่งขันลดน้ำหนัก, กิจกรรมขุนแผนแสนสะท้านต่อต้านพุง ซึ่งนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมเต้นคีตะมวยไทยประกอบเพลงอีแซวรีมิกซ์ “ท่าไม้ตายขุนแผน” หลังกิจกรรมหน้าเสาธง
กิจกรรมทั้งหมดนี้ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคในกลุ่มเป้าหมาย ผ่านการใช้สื่อและกิจกรรมสร้างสรรค์ที่หลากหลาย มุ่งใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ด้านสุขภาวะ มีการถ่ายทอดให้เกิดแรงบันดาลใจเพื่อการสื่อสารสุขภาวะ ในหัวข้อ “อย่าปล่อยให้เด็กอ้วน” โดยให้ความสำคัญกับครูผู้สอน เด็กนักเรียน พ่อแม่ ผู้ปกครอง และชุมชน ในการกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (participatory learning) และติดอาวุธความรู้ให้เยาวชนมีสุขภาพดีในทุกมิติ ด้วยการผลิตสื่อในประเด็นสุขภาวะและเผยแพร่นวัตกรรมสู่สังคม ตามวัตถุประสงค์ของโครงการอย่าปล่อยให้เด็กอ้วน (ลด หวาน มัน เค็ม เพิ่มผัก และผลไม้)
ปีนี้เราขยายผลไปสู่พื้นที่ทั้ง 4 ภูมิภาค ทั่วประเทศ เพื่อบูรณาการจากฐานภูมิพลังวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่วิสาหกิจเพื่อสังคม ภายใต้การดูแลของแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ให้เกิดนิเวศสุขภาวะ นำไปสู่การสร้างจิตสำนึกทัศนคติที่ดี และสร้างพฤติกรรมอย่างยั่งยืนในด้าน 3 อ. ได้แก่เรื่อง อาหาร (รู้จักคุณค่าทางโภชนาการ) การออกกำลังกาย การมีสุขภาวะที่ดีทางอารมณ์ และการรู้เท่าทันสื่อ ผ่านนวัตกรรมสื่อ และกิจกรรมสร้างสรรค์