“ประเพณีแตกบ้าน” จากความเชื่อสู่ขนบธรรมเนียมของชาวอีสาน
.
ชาวอีสานมีความเชื่อว่า ถ้าปีใดมีวันขึ้นหรือแรม 1 ค่ำ เดือน 5 ตรงกับวันอังคาร หรือขึ้นหรือแรม 5 ค่ำ เดือน 5 ตรงกับวันอังคาร ถือเป็น “วันแข็ง” หรือ “วันไม่เป็นมงคล” ในปีนั้นต้องมีการ “แตกบ้าน” เพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้าย โดยย้ายออกจากบ้านชั่วคราวเพื่อแก้เคล็ด เชื่อว่าหากทำพิธีนี้จะช่วยให้ชาวบ้านอยู่ดีมีสุข ปลอดภัยจากโรคภัยและเคราะห์กรรม
.
ประเพณีแตกบ้านหนึ่งในประเพณีเก่าแก่ของชาวอีสานที่สะท้อนถึงความเชื่อเรื่องโชคชะตาและการอยู่ร่วมกันในชุมชน ประเพณีนี้ไม่ได้มีความหมายว่า บ้านแตกสาแหรกขาด แต่เป็นพิธีกรรมที่ทำขึ้นเพื่อแก้เคล็ดและปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดี ตามความเชื่อของชาวอีสานประเพณีแตกบ้าน ถือเป็นความเชื่อของชุมชนเฉพาะกลุ่มคนที่มีความเชื่อเรื่องพิธีกรรมนี้และมีการยึดถือปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนาน
.
ประเพณีเเตกบ้าน เกิดจากสังคมดั้งเดิมของชาวอีสานที่พบเจอกับโรคระบาด หรือ เหตุการณ์ที่ทำให้ชุมชนไม่สามารถอยู่อาศัยได้เป็นปกติ ในอดีตหากหมู่บ้านไหนเจอกับโรคภัยไข้เจ็บรุนเเรง หรือภัยต่าง ๆ บ่อยครั้ง ชาวบ้านจะรวมตัวกันอพยพไปหาที่อยู่ใหม่เพื่อหนีจากเคราะห์กรรม ซึ่งจะเรียกว่า แตกบ้าน หรือ ไปบ้านใหม่
.
อย่างไรก็ตาม “ประเพณีแตกบ้าน” ที่มีสืบทอดกันมาอย่างยาวนานไม่ใช่การย้ายถิ่นฐานจริง ๆ แต่เป็นการ อพยพชั่วคราวตามพิธีกรรมความเชื่อ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพิธีพราหมณ์ในอดีต เดิมทีพิธีนี้ไม่มีพระสงฆ์มาเกี่ยวข้อง แต่ปัจจุบันมีการนิมนต์พระมาฉันภัตตาหารเพลเพื่อความเป็นสิริมงคล
.
ขั้นตอนพิธีกรรมของประเพณีแตกบ้าน นั้นเมื่อถึงวันที่ไม่เป็นมงคล ปราชญ์ชาวบ้าน หรือ ผู้ที่มีความรู้ด้านพิธีกรรมนี้จะประกาศให้ชาวบ้านรับรู้ว่าต้องทำพิธีแตกบ้านตามประเพณี โดยให้ทุกครอบครัวเตรียมข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น (ผู้สูงอายุที่ไปไหนไม่สะดวกก็ให้เฝ้าบ้าน) เมื่อทุกอย่างพร้อม ปราชญ์ชาวบ้านจะ สมมุติให้ผู้สูงอายุคนหนึ่งนุ่งผ้าขาวห่มขาวสะพายย่ามถือดาบ มาเรียกคนในหมู่บ้านแล้วพูดว่า “ให้เจ้าไปอยู่ยั้งบึงใหญ่นทีทอง ที่นั่นเป็นสถานซุ่มเย็นเลิงเรื่อย จนว่าแสงสูรย์เศร้ามัวเมาคล้อยค่ำ ยามตูดซ้ายสาแล้วค่อยมา” แปลว่า ให้ทุกคนออกไปอยู่ริมหนองน้ำเพราะที่นั่นอุดมสมบูรณ์ และเมื่อถึงเวลาพระอาทิตย์ตกดินจึงค่อยเดินทางกลับ หลังจากนั้นชาวบ้านจะเดินทางไปทางทิศตะวันออกของหมู่บ้าน และเลือกพักใกล้หนองน้ำ ซึ่งเชื่อว่าเป็นสถานที่ที่มีพลังงานดีและช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย เมื่อถึงที่หมายแล้ว ผู้ชายจะออกหาอาหารในธรรมชาติ ส่วน ผู้หญิงจะเตรียมอาหาร
.
และพอถึงเวลาพลบค่ำ ปราชญ์ชาวบ้านที่แต่งตัวชุดพราหมณ์จะกลับมาเรียกชาวบ้านให้เดินทางกลับบ้าน โดยกล่าวว่า “กูนี้มาแต่บ้านอยู่ซุมกินเย็น บัดนี้เข็ญกายหนีจากไปไกลแล้ว แม่นว่าโภยภัยฮ้ายอันตรายบังเบียด หรือว่าผีโขมดฮ้ายกะไปพร้อมพร่ำกัน ให้สูคืนเมือบ้านที่อยู่ภูมิสถาน ที่นั่นโสภางามศีลธรรมจริงแท้” แปลว่า ภัยพิบัติหรือสิ่งไม่ดีได้หายไปหมดแล้ว ตอนนี้ทุกคนสามารถกลับบ้านและดำเนินชีวิตอย่างปกติสุขได้ ชาวบ้านจะพากันเดินทางกลับบ้าน มีการเป่าแคน ร้องรำ และเมื่อกลับถึงบ้าน ผู้ที่เฝ้าบ้านจะต้องกล่าวว่า “เพิ่งมาถึงเหมือนกัน” เพื่อเป็นเคล็ด ห้ามพูดว่า “ไม่ได้ไปไหน” เด็ดขาด ถือเป็นอันเสร็จพิธีแตกบ้านของชุมชนอีสาน
.
ประเพณีเเตกบ้านของชุมชนอีสาน คือความเชื่อของผู้คนในท้องถิ่น ที่มีการยึดถือปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนาน เเละได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคน คนกับธรรมชาติ และคนกับสิ่งเหนือธรรมชาติ ที่คอยเกื้อกูลกันอย่างไม่เสื่อมคลาย ซึ่งในปัจจุบันประเพณีแตกบ้านยังคงมีให้เห็นกันอยู่ในบางจังหวัด เช่น ร้อยเอ็ด ยโสธร เป็นต้น
.
.
ติดตามข่าวสารและกิจกรรมต่าง ๆ ของแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ได้ที่
Official Web : http://artculture4health.com/
Facebook : https://www.facebook.com/artculture4h
Youtube แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรม สร้างเสริมสุขภาพ : http://bit.ly/3YVFSl5
Instagram : https://www.instagram.com/artculture.4health/
Twitter : https://twitter.com/art_culture4h
Tiktok : https://www.tiktok.com/@artculture4health
#สสส #แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ
แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ
Art & Culture for Health Literacy
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส)
ThaiHealth Promotion Founnation (THPF)
128/177 ชั้น 16 อาคารพญาไทพลาซ่า ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
128/177 Phayatai Plaza, 16th Fl., Phayathai Rd., Rajthevee, Bangkok 10400 Thailand
โทรศัพท์ : 02-129-3897-8 โทรสาร : 02-129-3899
อีเมล : [email protected]