โรค NCDs: ภัยเงียบจากวิถีชีวิตที่ต้องตระหนัก พฤติกรรมการเลือกรับทานอาหารมีส่วนอย่างมาก !!ร่าง

หมวดหมู่ เรื่องเด่น , โดย : Admin Maethapon , 20 มกราคม 68 / อ่าน : 59


 

โรค NCDs: ภัยเงียบจากวิถีชีวิตที่ต้องตระหนัก พฤติกรรมการเลือกรับทานอาหารมีส่วนอย่างมาก !!

โรค NCDs (Non-Communicable Diseases) หรือที่รู้จักในชื่อ “โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” เป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของโลกในปัจจุบัน โรคเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ แต่พัฒนาขึ้นจากวิถีชีวิต พฤติกรรมการบริโภค และปัจจัยสิ่งแวดล้อมในระยะยาว เช่น การกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ การขาดการออกกำลังกาย การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์

.

กลุ่มโรค NCDs ประกอบด้วย:

1.โรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหัวใจขาดเลือดและโรคหลอดเลือดสมอง

2.โรคเบาหวาน (ชนิดที่ 2 เป็นส่วนใหญ่)

3.โรคมะเร็ง เช่น มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม

4.โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) และโรคหืด

5.โรคอ้วนและโรคที่เกี่ยวข้องกับเมตาบอลิก เช่น ไขมันในเลือดสูงและความดันโลหิตสูง

.

จากรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี 2023 ที่ผ่านมา โรค NCDs คร่าชีวิตประชากรโลกกว่า 41 ล้านคนต่อปี หรือคิดเป็น 74% ของการเสียชีวิตทั้งหมดทั่วโลก โดยโรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุอันดับหนึ่ง รองลงมาคือโรคมะเร็ง โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง และโรคเบาหวาน

ที่น่ากังวลคือประชากรในประเทศรายได้ต่ำและปานกลางต้องแบกรับภาระของโรค NCDs อย่างมาก โดย 77% ของการเสียชีวิตจากโรค NCDs เกิดขึ้นในประเทศเหล่านี้ ซึ่งมักมีระบบสาธารณสุขที่ไม่เพียงพอ

.

ในประเทศไทยโรค NCDs เป็นปัญหาสุขภาพสำคัญเช่นกัน กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า โรค NCDs เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยกว่า 320,000 คนต่อปี หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 37 คน โดยโรคที่พบมากที่สุด ได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญในประเทศไทยได้แก่ การบริโภคอาหารที่มีเกลือและน้ำตาลสูง การขาดการออกกำลังกาย การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

.

โรค NCDs มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ เช่น การทำงานที่นั่งนิ่งนาน การบริโภคอาหารฟาสต์ฟู้ด และการขาดความตระหนักในเรื่องการออกกำลังกาย นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของสังคมสู่ความเป็นเมือง (Urbanization) และการเข้าถึงอาหารแปรรูปอย่างง่ายดายก็เป็นปัจจัยเร่งการเพิ่มขึ้นของโรคเหล่านี้

.

จากปัญหาดังกล่าวจึงเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดโครงการอย่าปล่อยให้เด็กอ้วน(ลดหวาน มัน เค็ม เพิ่มผักและผลไม้) ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นในการสร้างจิตสำนึกและเปลี่ยนพฤติกรรมด้านสุขภาพ  โดยการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านสุขภาพเพื่อลดปัญหาเด็กอ้วนที่จะนำไปสู่ปัญหาโรค NCDs ในอนาคต

.

ในวันที่ 14-15 มกราคม 2568 ที่ผ่านมาเราได้ประกาศผลผู้ชนะที่ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโครงการปีที่ 5 เป็นที่เรียบร้อย

 

รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โรงเรียนสุเหร่าทรายกองดิน เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ในธีม “เด๊ะ เด๊ะ สุขภาพดีชวน ตะลุยดินแดนอาหรับ”

รองชนะเลิศอันดับที่  1   ได้แก่ โรงเรียนดรุณวิทยา เทศบาลเมืองน่าน  (บ้านสวนตาล) ในธีม“ดรุณวิทยาสุขภาพ ดี OrigiNAN”

รองชนะเลิศอันดับที่  2   ได้แก่ โรงเรียนบ้านเขาขวาง จังหวัดลพบุรี ในธีม “ไทยเบิ้ง นวัตวิถี ชีวีดีเอ๊อะ”

 

สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลพิเศษในหมด WOW Awards รางวัลสร้างสรรค์ดีเด่น 3 ด้าน ได้แก่

รางวัล WOW Menu : เมนูชูสุขภาพสร้างสรรค์ดีเด่น  ได้แก่ โรงเรียนบ้านโนนม่วง จังหวัดขอนแก่น ธีม“สร้าง สานลานสุข (สุขภาพดี)” เด้อ

รางวัล WOW Identity : อัตลักษณ์สร้างสรรค์ดีเด่น ได้แก่ โรงเรียนบ้านสาวะถี (สาวัตถีราษฎร์รังสฤษฏิ์) จังหวัดขอนแก่น ธีม  “สินสร้างสุข (ภาพ)”

WOW Creation : สื่อสร้างสรรค์ดีเด่น ได้แก่ โรงเรียนจุมปีวนิดาภรณ์ เทศบาลเมืองน่าน (บ้านภูมินทร์) ธีม “กระซิบฟิต (FIT) บันลือโลก”

.

จากการดำเนินโครงการเห็นผลได้ชัดเจนถึงความเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมด้านสุขภาพของกลุ่มเป้าหมาย ทำให้เห็นว่าโครงการอย่าปล่อยให้เด็กอ้วนฯ เป็นฟันเฟืองที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเด็กอ้วนและโรค NCDs ในอนาคตได้อย่างแน่นอน แม้ว่าในปัจจุบันจะยังเป็นโครงการที่ดำเนินการยังไม่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับประเทศได้ แต่หากทุกคนช่วยกันผลักดันให้โครงการอย่าปล่อยให้เด็กอ้วนฯ ไปสู่ระดับนโยบาย และหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น ในนึงปัญหาเด็กอ้วนและโรค NCDs จะน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

.

“เพราะปัญหาเด็กอ้วนถือว่าปัญหาระดับชาติที่ทุกคนควรตระหนัก”

“เด็กอ้วนในวันนี้คือผู้ในที่เสี่ยงโรค NCDs ในอนาคต”

“อย่าปล่อยให้เด็กอ้วน!!!”

.

.

#แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ #สสส #อย่าปล่อยให้เด็กอ้วน #3อ #อาหาร #ออกกำลังกาย #อารมณ์

ติดตามข่าวสารและกิจกรรมต่าง ๆ ของแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ได้ที่

Official Web : http://artculture4health.com/

Facebook : https://www.facebook.com/artculture4h

Youtube แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรม สร้างเสริมสุขภาพ : http://bit.ly/3YVFSl5

Instagram : https://www.instagram.com/artculture.4health/

Twitter : https://twitter.com/art_culture4h

Tiktok : https://www.tiktok.com/@artculture4health



 



ปฏิทินกิจกรรม























แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ
Art & Culture for Health Literacy

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส)
ThaiHealth Promotion Founnation (THPF)

128/177 ชั้น 16 อาคารพญาไทพลาซ่า ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
128/177 Phayatai Plaza,  16th Fl., Phayathai Rd., Rajthevee, Bangkok 10400 Thailand

โทรศัพท์ : 02-129-3897-8 โทรสาร : 02-129-3899
อีเมล : [email protected]