นายโสภา พลตรี หรือ หมอลำโสภา พลตรี เกิดเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๔๒๕ ที่บ้านโนนรัง ตำบลสาวะถี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตรงกับสมัยพระบาทสมเด็จพระพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ หมอลำโสภาเป็นลูกชาวนา เรียนหนังสือจากวัด ซึ่งสอนโดยพระภิกษุ สามารถอ่านตัวธรรม ตัวขอมได้ หมอลำโสภาเป็นคนที่มีความจำดี สามารถจดจำคัมภีร์ต่าง ๆ ได้มากมาย รู้พิธีกรรมบวงสรวงต่าง ๆ เรียนวิชาหมอลำ จนเป็นหมอลำที่มีชื่อเสียงในแถบตำบลสาวะถีและตำบลใกล้เคียง
.
.
หมอลำโสภา มีภรรยา ๓ คน จาก ๓ บ้าน คือ บ้านป่าหวาย บ้านหนองตะไก้ และบ้านสาวะถี เป็นผู้ที่มีฐานะดี เฉพาะที่นาที่บ้านป่าหวายมีประมาณ ๗๐ – ๑๐๐ ไร่ หมอลำโสภาเป็นผู้ที่มีบุคลิกดี หน้าตาดี ผิวคล้ำ ฟันสีเขียวดังปีกแมลงทับ กล้าพูดกล้าทำ ไม่กลัวคน เป็นคนพูดเก่งมีเหตุมีผล ชาวบ้านแถบนั้นชื่นชมในความสามารถมาก
หมอลำโสภา พลตรี เป็นบุคคลสำคัญของบ้านสาวะถี เพราะเคยเป็นแกนนำของกลุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็น กบฏ หมอลำโสภาไม่ได้เป็นกบฏที่ต้องการล้มการปกครองของรัฐบาลหรือผู้ใด แต่เหตุที่ท่านต้องโทษในข้อหากบฏเพียงเพราะท่านปราศรัย และมักจะต่อต้านการขูดรีดภาษีของเจ้าหน้าที่รัฐ กฎหมายการห้ามตัดไม้ รวมถึงการยกเลิกการเรียนการสอนในวัดและสอนภาษาไทยแทนอักษรธรรม หมอลำโสภามักจะปราศรัยผ่านการร้องหมอลำ ซึ่งชาวบ้านก็ชื่นชมในความกล้า และสนับสนุนอยู่ไม่น้อย
.
.
การกระทำของหมอลำโสภา พลตรี ทำให้ท่านและลูกศิษย์คือ พ่อเสริม พ่อสิงห์ และพ่อใหญ่คุย รวมถึงผู้ร่วมฟังปราศรัยต้องถูกจับกุม นำไปสู่การเสียชีวิตอย่างปริศนาในวัย ๕๙ ปีของท่าน ช่วงปลายปี พ.ศ. ๒๔๘๕ ถึงต้นปี พ.ศ. ๒๔๘๖ ถึงแม้ว่านายโสภา พลตรี จะจากไปนามของท่านยังถูกจดจำในฐานะ หมอลำโสภา กบฏผู้มีบุญแห่งบ้านสาวะถี
แม้ว่าหมอลำโสภาจะเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว แต่ชาวบ้านในตำบลสาวะถีและตำบลใกล้เคียง ก็ยังนับถือและเล่าถึงด้วยความศรัทธา
.
.
ประการแรก หมอลำโสภาเป็นผู้นำทางความคิด โดยเฉพาะการต่อต้านเรื่องภาษีที่ดิน กฎหมายป่าไม้ และการครอบงำทางวัฒนธรรม ซึ่งตรงกับใจชาวบ้านอยู่แล้ว ประกอบกับเป็นหมอลำนักพูด จึงสื่อความคิดกับชาวบ้านได้อย่างถึงอกถึงใจ
.
.
ประการที่สอง หมอลำโสภาได้แสดงปาฏิหาริย์ในลักษณะผู้วิเศษ ๒ ครั้ง ครั้งแรกถูกทางราชการจับถ่วงน้ำที่คลองบางซื่อแล้วไม่ตาย ครั้งที่สอง เมื่อเขาตายไปแล้วทางราชการได้ห่อศพของเขาแล้วนำไปฝังเพื่อรอญาติมาขุดไปบำเพ็ญกุศล ปรากฏว่าฝังได้สามวัน วันที่สี่ญาติมารับศพ เมื่อขุดศพขึ้นมาเหลือแต่ผ้าขาวม้าที่ผู้ตายนุ่งอยู่ตอนเสียชีวิตกับเสื่อที่ห่อศพแต่ร่างได้หายไป ชาวบ้านเชื่อว่าหมอลำโสภาได้สำเร็จวิชาขั้นสูง หายตัวไปเกิดใหม่แล้ว
.
.
ประการสุดท้าย หมอลำโสภาเป็นนักพยากรณ์ ทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ถูกต้อง ตอนทำนายชาวบ้านไม่เข้าใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปคำทำนายก็ค่อย ๆ เป็นจริง เช่น
.
.
“ม้าซิโป่งเขา” คือรถจักรยานยนต์ “เสาซิออกดอก” คือเสาไฟฟ้าและหลอดไฟฟ้า “โบกกุมภัณฑ์” คือสลากกินแบ่งรัฐบาล “กระดาษน้อยสองนิ้วใครก็ซื้อได้” คือหวยเถื่อน เป็นต้น