(1) แรกเริ่มเดิมทีทางผู้พัฒนาได้ลงพื้นที่สำรวจ ประเมินสถานการณ์ตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งชุมชน ร้านค้า และ โรงเรียน จึงได้พบว่าแอปพลิเคชันที่ใช้อยู่ตอนนี้ที่มีไว้สำหรับสำรวจความหนาแน่นของประชากรตามพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงการเก็บประวัติการเดินทางนั้นยังมีผู้ใช้งานไม่แพร่หลายนัก ถึงแม้ว่าจะเปิดให้บริการมาเป็นเวลา 6 เดือนแล้วก็ตาม ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อความถูกต้องของข้อมูล อย่างเช่นความจริงแล้ว ในพื้นที่นั้นมีกลุ่มคนอยู่อย่างหนาแน่น แต่ในข้อมูลที่ปรากฎในแอปพลิเคชันนั้นกลับแสดงผลไม่ตรงกับความเป็นจริงเลย
นี่จึงเป็นหนึ่งไอเดียที่ให้กำเนิดผมขึ้นมาพร้อมกับแอปพลิเคชัน B-Hero นั่นเองครับ
(2) ไอเดียที่สองนั้น นอกจากที่ทางผู้พัฒนาได้ลงพื้นที่สำรวจแล้ว เรายังได้สอบถามไปยังกลุ่มตัวอย่างที่ได้ทดลองใช้แอปพลิเคชัน B-Hero ของเรา นั่นก็คือนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ผู้ปกครอง และบุคลากรในโรงเรียนด้วยครับ (เนื่องจากทางผู้พัฒนาไม่สามารถลงพื้นที่เสี่ยงได้เท่าที่ควร เนื่องด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน) ซึ่งทำให้นอกจากจะรู้ว่า การแสกน QR-Code นั้นเป็นเรื่องที่เสียเวลาและไม่จำเป็นต่อพวกเขาเวลาที่ไปสถานที่ต่าง ๆ แล้ว การรับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับโรคระบาดที่เราควรใส่ใจ รวมถึงสถานการณ์ที่ส่งผลต่อสุขภาพต่าง ๆ อย่างเช่นค่าฝุน PM 2.5 นั้นก็ยังปะปนไปกับข่าวในเรื่องอื่น ๆ ด้วย ทำให้เป็นเรื่องยากต่อการติดตามข่าวสารได้อย่างทันท่วงที
เพราะฉะนั้นแล้ว สิ่งที่พวกเขาต้องการรองลงมาจาก Auto Check-in นั้น ก็คือการได้รับข่าวสารทันสถานการณ์ปัจจุบันที่มีความน่าเชื่อถือ รวมถึงการมีแหล่งข่าวที่ใช้เปรียบเทียบได้ ซึ่งนั่นทำให้แอปพลิเคชันนี้ นอกจากจะมีระบบบันทึกสถานที่ที่ไปโดยอัตโนมัติแล้ว ยังเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะรวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับ COVID-19 และค่าฝุ่น PM 2.5 ที่ทันต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน และ มีความน่าเชื่อถือครับ
(3) ในระหว่างการรวบรวมไอเดีย พวกเราได้รับการเสนอแนะไอเดียใหม่ ๆ จากอาจารย์และพี่เลี้ยงที่ปรึกษาโครงการของเราว่า จะเป็นการดีมากสำหรับแอปพลิเคชันของเรา ถ้านอกจากทางผู้พัฒนาจะส่งข้อมูลข่าวสารและสินค้าแนะนำให้กับผู้ใช้งานแล้ว ฝั่งผู้ใช้งานเองก็สามารถรับรู้สถานการณ์ปัจจุบันที่พวกเขาอยู่ได้ด้วยตนเอง ด้วยความคิดนี้พวกเราจึงนำไปต่อยอดสู่ฟังก์ชันรายงานสถานการณ์ (!) ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถแจ้งหรือร้องเรียนสถานการณ์อันตรายจากสถานที่ที่พวกเขาอยู่ได้ รวมถึงยังเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่จะรวบรวมส่งไปให้กับองค์กรบริหารส่วนชุมชน และ จะได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที
(4) ไอเดียสุดท้ายนี้ที่ผู้พัฒนาให้ความสำคัญรองลงมาจาก Auto Check-in ที่เก็บข้อมูลการเดินทางในแต่ละวัน คือการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับอาการเสี่ยงของผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน เพื่อที่หากว่าผู้ใช้งานจำเป็นต้องไปพบแพทย์เนื่องในอาการป่วยหรือเกิดอาการผิดปกติใด ๆ ขึ้น จะได้นำข้อมูลจากการบันทึกในส่วนนี้ที่ทำเป็นประจำวันต่อวันไปประกอบกับการประเมินสถานการณ์และทำการรักษาให้กับผู้ป่วยได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
--------------
ติดตามผลงาน