ตลอดระยะเวลากว่า 3 เดือน ก่อนจะถึงบททดสอบ 10 กิโลเมตรแรกในชีวิตของบุคคลต้นแบบทั้ง 8 คน นอกจากจะมีการตรวจเช็คสุขภาพโดยโรงพยาบาลศิริราช ปิยะมหาการุณย์ทั้งก่อนและจบโครงการ ผลการตรวจพบว่าทั้ง 8 คน มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้น “เพราะการออกกำลังกาย และฝึกซ้อมอย่างถูกวิธีจากโค้ช และการได้รับคำแนะนำในเรื่องการรับประทานอาหารที่เหมาะสมจากนักโภชนาการ ตลอดจนความรู้ต่างๆ ในการวิ่งจากโครงการ”
วันนี้เขาพิชิต 10 กิโลเมตรแรกได้แล้ว ซึ่งนั่นก็สามารถพิสูจน์ให้รู้อย่างชัดเจนได้ว่า ไม่ว่าใครก็วิ่งได้ จะป่วย จะพิการ จะเป็นโรคประจำตัว จะมีปัญหาสุขภาพที่หลากหลายก็ทำได้... ไปดูกันว่า “เขาทั้ง 8เปลี่ยนอย่างไร?”
THR7 นายเพาซี ยะซิง (แบซี)
อายุ 44 ปี สูง 159 ซม. หนัก 75 กก. มีภาวะน้ำหนักเกิน
“ชีวิตติดเก้าอี้ กลัวอนาคตจะติดเตียง” ปัจจุบันผมทำงานด้านการสื่อสาร ด้วยชีวิตของคนตัดต่อที่ติดเก้าอี้ ตัดงานอยู่จนดึกเกือบทุกวัน ทำให้อ้วนลงพุง บางทีรู้สึกอึดอัด สุดท้ายผมคิดว่า “ผมต้องเปลี่ยน” ไม่อย่างนั้น ผมคงติดเตียงหมดโอกาสอยู่ทำงานที่ตัวเองรักแน่ๆ
บทพิสูจน์ 10 กิโลเมตร ของ THR7 (แบซี) เพาซี ยะซิง สำเร็จลงได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมง 25 นาที 09 วินาที ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ชีวิตดีๆ ที่ได้จากความพยายามในการฝึกซ้อมและเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองในครั้งนี้ “ผมเชื่อว่าทุกคนสามารถวิ่งได้ ผมเองก็ไม่เคยวิ่งเหมือนกัน แต่สุดท้ายผมก็สามารถพิชิตระยะทาง 10 กิโลเมตรได้ และมันเป็นการได้มาพร้อมๆ กับรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจของผมและครอบครัวที่ได้วิ่งไปพร้อมๆ กัน” เพาซี ยะซิง บอก
การวิ่งหากเราหยิบรองเท้ามาสักคู่หนึ่งแล้วออกวิ่ง นั่นก็สามารถทำให้คุณ “วิ่งได้” ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่งที่คุณยอมหยิบรองเท้าคู่นั้นขึ้นมาใส่แล้วออกวิ่ง แต่ในความเป็นจริง “หลักที่ถูกต้องของการวิ่ง” ผมอยากให้คุณลองศึกษาวิธีการวิ่งที่ถูกต้องไปควบคู่กันด้วย เพราะเมื่อเรามีความรู้ที่ถูกต้องประกอบกันนอกจากจะทำให้เราไม่บาดเจ็บจากการวิ่งแล้ว การวิ่งที่ถูกต้องจะส่งผลทำให้เรามีร่างกายที่แข็งแรงพร้อมที่จะออกวิ่งได้ในทุกๆ วัน
“หลังจากจบงานวิ่งแล้ว ทุกวันผมคิดตลอดเลยว่าเมื่อไหร่จะถึงตอนเย็นเพื่อที่จะได้ออกไปวิ่ง เพราะการวิ่งมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว ซึ่งตอนนี้ผมได้เริ่มหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิ่ง เพื่อนำมาพัฒนาตัวเองอีกด้วย โดยการเริ่มวิ่งในครั้งแรกนั้นผมมีเป้าหมาย คือสามารถวิ่งได้ จากคนที่วิ่งไม่เป็นตอนนี้ผมวิ่งเป็นแล้ว เป้าหมายที่สองคือเรื่องของสุขภาพ หลังวิ่งผลการตรวจสุขภาพออกมาทุกอย่างดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความดัน หัวใจ และออฟฟิศซินโดรมดีขึ้นทุกอย่าง เป้าหมายต่อไปของผม คือ การเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่งของตัวเอง พัฒนาไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น ร่างกาย ความเร็ว ลมหายใจ ส่วนเรื่องการลงวิ่งในงานต่างๆ ตอนนี้ผมยังไม่ได้คิดไว้ ขอพัฒนาตัวเองก่อน แต่สิ่งที่คิดไว้เสมอเลยก็คือ เราต้องวิ่งอย่างมีความสุข วิ่งไปยิ้มไปเรื่อยๆ จากนั้นร่างกายของเราจะพัฒนาไปเอง” เพาซี ยะซิง บอก
การฝึกซ้อมร่างกายที่ผ่านมาทั้งการทำตามตารางที่โค้ชให้ มีวินัยในตัวเอง และการวางแผนในการวิ่ง ซึ่งในการวิ่ง 10 กิโลเมตรของผมจะแบ่งเป็น 3 เซต คือ 4 – 4 – 2 กิโลเมตร และวิ่งในความเร็วที่แตกต่างกัน ซึ่งการวิ่งแบบนี้จะช่วยให้เราสามารถวิ่งไปถึงเส้นชัยได้อย่างปลอดภัยและทันตามเวลาที่กำหนด ที่สำคัญทั้งภรรยาและลูกสาวเข้าเส้นชัยได้เหรียญรางวัลครั้งแรกในชีวิตด้วย รู้สึกภูมิใจมาก ที่ทำสำเร็จสามารถพิชิต 10 กิโลเมตรได้”
ความสุขที่เกิดขึ้นนี้หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว วันนั้นถ้าผมไม่เลือกที่จะเปลี่ยน วันนี้ผมคงยังมีชีวิตที่ติดเก้าอี้ อนาคตผมคงมีชีวิตที่ติดเตียงแน่นอน... ผมเลือกที่จะเปลี่ยน เมื่อเปลี่ยนแล้วมันดีเกินคาดครับ...
#THR7
#ชีวิตฟรีแลนซ์
#คนทำสื่อชายแเดนใต้
#Sea_Slow
#สุขภาพและสันติภาพ
#RunForNewLifeStory
#วิ่งสู่ชีวิตใหม่สตอรี่
#วิ่งสู่ชีวิตใหม่RunForNewLifeStory
ติดตามข่าวสารได้ที่
Fanpage : RunfornewlifeStory
Website : Runfornewlifestory
Youtube : วิ่งสู่ชีวิตใหม่ RunForNewLife Story
โครงการวิ่งสู่ชีวิตใหม่ Run For New Life Story
128/177 ชั้น 16 อาคารพญาไทพลาซ่า ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
128/177 Phayatai Plaza, 16th Fl., Phayathai Rd., Rajthevee, Bangkok 10400 Thailand
โทรศัพท์ : 02-298-0987-8 โทรสาร : 02-298-0989
อีเมล : [email protected]