ตลอดระยะเวลากว่า 3 เดือน ก่อนจะถึงบททดสอบ 10 กิโลเมตรแรกในชีวิตของบุคคลต้นแบบทั้ง 8 คน นอกจากจะมีการตรวจเช็คสุขภาพโดยโรงพยาบาลศิริราช ปิยะมหาการุณย์ทั้งก่อนและจบโครงการ ผลการตรวจพบว่าทั้ง 8 คน มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้น “เพราะการออกกำลังกาย และฝึกซ้อมอย่างถูกวิธีจากโค้ช และการได้รับคำแนะนำในเรื่องการรับประทานอาหารที่เหมาะสมจากนักโภชนาการ ตลอดจนความรู้ต่างๆ ในการวิ่งจากโครงการ”
วันนี้เขาพิชิต 10 กิโลเมตรแรกได้แล้ว ซึ่งนั่นก็สามารถพิสูจน์ให้รู้อย่างชัดเจนได้ว่า ไม่ว่าใครก็วิ่งได้ จะป่วย จะพิการ จะเป็นโรคประจำตัว จะมีปัญหาสุขภาพที่หลากหลายก็ทำได้... ไปดูกันว่า “เขาทั้ง 8เปลี่ยนอย่างไร?”
THR4 นายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ (ท้อป)
อายุ 41 ปี สูง 170 ซม. หนัก 108 กก. โรคความดันโลหิตสูง, โรคเบาหวาน
“ผมอยากมีโอกาสได้เปลี่ยนแปลงชีวิต ได้เรียนรู้การวิ่ง การออกกำลังกายที่ถูกวิธี เพื่อมาสร้างแรงบันดาลใจให้คนในชุมชน“
นายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ ผ่านบทพิสูจน์สุดท้ายของโครงการวิ่งสู่ชีวิตใหม่สตอรี่ Run For New Life Story ด้วยการวิ่ง 10 กิโลเมตรแรกในชีวิตได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมง 39 นาที 32 วินาที ได้สำเร็จ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ชีวิตดีๆ ที่ได้จากเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองในครั้งนี้ โดยหลังจากจบงานวิ่งสุขภาพก็ดีขึ้น และทำให้เขายังคงมุ่งมั่นที่จะวิ่งต่อไป เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ดีที่สุดในการออกกำลังกาย และเป้าหมายต่อไป “เขาตั้งใจว่า 3 เดือนข้างหน้า เขาจะลงแข่งวิ่ง ฮาล์ฟ มาราธอน ในระยะทาง 21 กิโลเมตรให้ได้...”
“จากวันแรกที่เข้าร่วมโครงการตอนนั้นผมน้ำหนัก 108 กิโลกรัม ตอนนี้น้ำหนักผมลดไปถึง 10 กิโลกรัม เหลือเพียง 98 กิโลกรับแล้ว ผมถือว่าประสบความสำเร็จเกินคาดครับ ที่สำคัญผลตรวจสุขภาพล่าสุดที่ทางโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาการุณย์ตรวจให้พบว่า ไขมันในเลือดสูง มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน มีความดันโลหิตสูง พบมีไขมันเกาะตับ และมีกรดยูริกสูงเนื่องจากเคยเป็นเกาท์มาก่อน แต่ผลการตรวจล่าสุด พบว่า ผลทุกอย่างออกมาดี ทุกอย่างกลับมาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานแล้ว ซึ่งมันเป็นข่าวที่ดีมากๆ” นายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ บอกด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้ม
“ความรู้สึกหลังจากที่วิ่ง 10 กิโลเมตรได้สำเร็จ คือ ดีใจมากๆ เพราะไม่เคยคิดว่าภายในระยะเวลาเพียง 85 วันจะสามารถลุกขึ้นมาวิ่งได้สำเร็จ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้จัดแต่งานวิ่งให้คนออกมาวิ่ง ยังไม่เคยได้ลองวิ่งจริงจังสักที พอได้เข้าร่วมโครงการนี้ ต้องฝึกซ้อม ต้องมีวินัย ต้องฟังการแนะนำจากโค้ช โดยเทคนิคของโค้ชแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน สำหรับโค้ชเป้ง สาธิก ธนะทักษ์ จะวางแผนการฝึกซ้อมให้เหมาะสมกับตัวเรามากที่สุด ซึ่งการฝึกซ้อมจะไม่เน้นให้เหนื่อย แต่จะเน้นความต่อเนื่อง เพื่อให้การฝึกซ้อมกลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต ช่องแรกๆ โค้ชยังไม่ให้วิ่งในทันที จะให้เดินไปก่อนเพราะว่าคนไม่เคยวิ่งกล้ามเนื้อของเรายังไม่มีความแข็งแรงมากพอ ถ้าเริ่มต้นด้วยการวิ่งเลยจะทำให้บาดเจ็บและไม่อยากวิ่งต่อ ดังนั้นควรเริ่มจากการเดินก่อน ถ้าเดินได้ดีเราก็จะสามารถวิ่งได้... จากการฝึกซ้อมวันแรกผ่านไป วันที่สอง สาม สี่ จนตอนนี้ผมคิดว่าการวิ่งหรือการออกกำลังกายกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเราไปแล้ว หลังจากนี้ถึงแม้ว่าจะจบโครงการในระยะที่ 1 ไปแล้วผมก็พยายามวิ่งให้ได้ทุกวันครับ” นายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ บอก
นายกฯ ท้อป บอกต่อว่า ตอนนี้ผมยกให้การวิ่งเป็นกิจกรรมของครอบครัวไปแล้ว เมื่อเราเปลี่ยนคนในครอบครัวก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย ที่สำคัญคนในที่ทำงานและในชุมชนเมื่อเขาเห็นเราทำได้ เขาก็เริ่มพากันออกมาวิ่งด้วย พูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำได้เลยว่า “โครงการนี้ให้ทั้งชีวิตใหม่ ให้สิ่งที่ดีกับผมและชุมชนเยอะมาก ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือการเปลี่ยนความคิดของตัวเอง และตั้งเป้าหมายในชีวิตให้ดี เพราะบางคนไม่มีเป้าหมายที่แน่ชัด หรือมีความคิดที่ผิดๆ เกี่ยวกับการวิ่ง ทำให้การทำกิจกรรมเหล่านี้ไม่ประสบความสำเร็จ อยากให้ทุกคนมีความมุ่งมั่น พยายามและอดทน เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงชีวิตประสบความสำเร็จในวันข้างหน้า ขอเป็นกำลังใจให้ เพราะถ้าผมทำได้คุณก็ทำได้ วันนี้ผมเปลี่ยนได้คุณก็เปลี่ยนได้ผมเชื่ออย่างนั้น”
#THR4
#นายกท๊อปสู้สู้
#ต้องเดินให้ได้10กิโลก็จะวิ่งได้เอง
#หนองไผ่ล้อมเมืองน่าอยู่
#RunForNewLifeStory
#วิ่งสู่ชีวิตใหม่สตอรี่
#จะปล่อยหรือจะเปลี่ยน
#วิ่งสู่ชีวิตใหม่RunForNewLifeStory
ติดตามข่าวสารได้ที่
Fanpage : RunfornewlifeStory
Website : Runfornewlifestory
Youtube : วิ่งสู่ชีวิตใหม่ RunForNewLife Story
โครงการวิ่งสู่ชีวิตใหม่ Run For New Life Story
128/177 ชั้น 16 อาคารพญาไทพลาซ่า ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
128/177 Phayatai Plaza, 16th Fl., Phayathai Rd., Rajthevee, Bangkok 10400 Thailand
โทรศัพท์ : 02-298-0987-8 โทรสาร : 02-298-0989
อีเมล : [email protected]