THR3 (ออย) ยุวดี พันธ์นิคม 'พิชิต 10 กิโลเมตรแรกในชีวิต กับวิ่งสู่ชีวิตใหม่ RunForNewLife Story'

           ตลอดระยะเวลากว่า 3 เดือน ก่อนจะถึงบททดสอบ 10 กิโลเมตรแรกในชีวิตของบุคคลต้นแบบทั้ง 8 คน นอกจากจะมีการตรวจเช็คสุขภาพโดยโรงพยาบาลศิริราช ปิยะมหาการุณย์ทั้งก่อนและจบโครงการ ผลการตรวจพบว่าทั้ง 8 คน มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้น “เพราะการออกกำลังกาย และฝึกซ้อมอย่างถูกวิธีจากโค้ช และการได้รับคำแนะนำในเรื่องการรับประทานอาหารที่เหมาะสมจากนักโภชนาการ ตลอดจนความรู้ต่างๆ ในการวิ่งจากโครงการ”

          วันนี้เขาพิชิต 10 กิโลเมตรแรกได้แล้ว ซึ่งนั่นก็สามารถพิสูจน์ให้รู้อย่างชัดเจนได้ว่า ไม่ว่าใครก็วิ่งได้ จะป่วย จะพิการ จะเป็นโรคประจำตัว จะมีปัญหาสุขภาพที่หลากหลายก็ทำได้... ไปดูกันว่า “เขาทั้ง 8เปลี่ยนอย่างไร?”

          THR3 นางสาวยุวดี  พันธ์นิคม (ออย)

อายุ 34 ปี  สูง 167 ซม. หนัก  62.5 กก.  เป็นโรคมะเร็งกระดูกลามขึ้นปอด, ไวรัสตับอักเสบบี, นิ่วในถุงน้ำดี, ปัจจุบันใส่ขาเทียมข้างซ้าย ,ตัดปอดออก 1 ข้าง

“ตั้งเป้าหมายไว้ "อยากวิ่ง 10 กิโลเมตรให้ได้" และอยากมีสุขภาพที่ดี” 

          นางสาวยุวดี พันธ์นิคม บอกว่า ที่ผ่านมาเรามีความคิดอย่างเดียวว่าเราเป็นคนพิการ ออกกำลังกายไม่ได้ คนพิการต้องรอรับความช่วยเหลือจากคนปกติเสมอ ซึ่งจริงๆ มันไม่ผิดที่จะคิดแบบนี้ คือมันคิดได้แต่บางครั้งเราต้องลุกขึ้นมาช่วยตัวเอง มาดูแลให้ตัวเองแข็งแรงก่อน แล้วเราจะไปต่อได้ การได้มาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิ่งสู่ชีวิตใหม่ RunForNewLife Story ออยคิดว่าที่นี่แหละที่จะทำให้คนพิการอย่างออยแข็งแรงได้ จากคนที่ไม่เคยวิ่ง นี้ออยสามารถวิ่งพิชิตระยะทาง 10 กิโลเมตรได้แล้วด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 1 นาที 40 วินาที ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ชีวิตดีๆ ที่ได้จากความพยายามในการฝึกซ้อมและเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ซึ่งหลังจบจากงานวิ่ง ชีวิตก็กลับมาเป็นปกติ แต่หลังจากที่ได้หยุดพักไป 5 วัน เหมือนร่างกายมันต้องการการออกกำลังกาย รู้สึกอยากออกไปวิ่งถึงแม้ว่าแผลที่เข่าจะยังไม่หายดีก็ตาม

          “แม้ว่าในระยะเวลา 3 เดือน มีคำถามมาเรื่อยๆ ว่าแค่ใจมันจะพอจริงๆ เหรอ ยิ่งเรารู้สึกว่าต้นทุนไม่เท่าคนอื่น เราก็ยิ่งพยายามให้มากขึ้นๆ ในแบบที่เราคิดว่าเราทำได้ แล้วสุดท้ายก็ทำสำเร็จในเป้าหมายที่วางไว้ว่า “อยากวิ่ง 10 กิโลเมตรให้ได้” รู้สึกดีใจมาก ดีใจมากๆ ถึงขั้นร้องไห้ออกมาด้วยความภูมิใจกับตัวเอง ซึ่งมันไม่เคยคิดว่าจะสามารถทำได้ขนาดนี้ แต่สิ่งที่ภูมิใจไปมากกว่านั้นก็คือการที่มีคนออกมาวิ่งและออกกำลังกายตามเรา บางคนบอกว่า “พี่รู้ไหม? ว่าผมออกกำลังกายเพราะพี่นะ” “ขอบคุณที่มาเป็นกำลังใจ เป็นแรงบันดาลใจให้เขา” บางคนเมื่อเจอการบาดเจ็บคิดจะล้มเลิก เมื่อมาเห็นเราเขารู้สึกว่าเขาล้มไม่ได้ “เขาหยุดไม่ได้” ...มาถึงตอนนี้การวิ่งมันเป็นความสุขอย่างหนึ่งที่เราอยากจะทำมันต่อไปเรื่อยๆ ไม่หยุดแน่นอน” ออยบอกด้วยแววตาที่มุ่งมั่น

          อีกมุมหนึ่งของความสำเร็จในครั้งนี้นั่นคือ โค้ชเป้า อุ้มยศ กิจอุดม อดีตนักกรีฑาทีมชาติไทย โค้ชประจำตัวของ THR3 ซึ่ง THR3 บอกว่า “โค้ชเป็นคนยิ้มหวานและน่ารักมาก แต่ในขณะเดียวกันโค้ชก็ซ่อนความโหดไว้เช่นกัน โค้ชจะตะโกนไล่เราว่า ไป ไป ไป ออยไป เพื่อกระตุ้นให้เราไปต่อ โค้ชสอนการเดิน การหายใจให้สามารถหายใจได้ดีตอนวิ่ง ที่ผ่านมาเวลาเดินออยไม่แกว่งแขน โค้ชบอกว่า “ต้องแกว่งแขนด้วยนะ” แล้วโค้ชก็สอนวิธีการแกว่งแขนทำให้ออยสามารถเดินและวิ่งได้ดีขึ้น และเพราะเราเป็นคนพิการตารางฝึกซ้อมจึงเป็นแบบวันต่อวัน ซึ่งโค้ชจะคอยติดตามเช็คสภาพร่างกายอยู่ตลอดว่าวันนี้เป็นอย่างไร? ทำได้ไหม? เจ็บปวดตรงไหนหรือเปล่า? ซึ่งหลังจากจบงานวิ่งได้ 1 สัปดาห์ โค้ชก็ยังมีส่งข้อความมาบอกว่า “คุณออยครับเริ่มออกกำลังกายได้แล้วนะครับ แต่อย่าหักโหมนะครับ เอาเท่าที่ไหว” รู้สึกดีมากๆ มีพลังไปต่อ...

“โครงการนี้ทำให้เราได้เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับแรงบันดาลใจ เมื่อก่อนเราเป็นเพียงคนพิการคนหนึ่งที่ต้องการรับแรงบันดาลใจจากผู้อื่น แต่ตอนนี้เราได้เป็นทั้งสองอย่างได้ในเวลาเดียวกัน มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนอีกแล้ว อยากฝากถึงนักวิ่งหน้าใหม่ที่อยากเริ่มวิ่งแต่ไม่รู้ว่าควรเริ่มอย่างไร? ลองเริ่มจากการรักตัวเองก่อน เพราะถ้าคุณรักตัวเองมากพอคุณจะทำมันต่อ เพราะคุณรู้อยู่แล้วว่าผลที่ได้นั้นมันดี และคุณรักตัวเองคุณก็จะสามารถทำได้แน่นอนค่ะ” ออย บอกทิ้งท้าย .... เราเชื่อคุณทำได้ ....

#THR3
#oil_IamRobot
#ถ้าวิ่งแล้วเหนื่อยงั้นมาเดินเรื่อยๆกับเรานะ
#โยกเยกICan
#RunforNewLifeStory
#วิ่งสู่ชีวิตใหม่สตอรี่
#จะปล่อยหรือจะเปลี่ยน
#วิ่งสู่ชีวิตใหม่RunForNewLifeStory

ติดตามข่าวสารได้ที่ 

Fanpage : RunfornewlifeStory 

Website : Runfornewlifestory

Youtube : วิ่งสู่ชีวิตใหม่ RunForNewLife Story