รู้หรือไม่? วัยรุ่นไทยไม่โชว์ดังก็ดังได้! : โดยเสาวลักษณ์ ศรีสรรค์ ผลงานประเด็นรู้เท่าทันสื่อ

, 4 กรกฎาคม 61 / อ่าน : 2,123

 

"การสร้างผลงานอย่างสร้างสรรค์....

ดีกว่าการสร้างกระแสบนโลกออนไลน์"

จากเสาวลักษณ์ ศรีสรรค์  เรื่อง รู้หรือไม่? วัยรุ่นไทยไม่โชว์ก็ดังได้!






ภาพเปลือย หลายคนคงเคยเห็นปรากฏอยู่มากมายบนฟีดเฟซบุ๊กหรือตามโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยเฉพาะการไลฟ์สด นับว่าเป็นที่นิยมของกลุ่มคนเหล่านี้มาก ไม่ว่าจะเป็นการโพสภาพอัลบั้มนู้ดใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น การโชว์อกและของสงวน อย่างหลายกรณีที่ผ่านมาและเป็นข่าวโด่งดังหลายข่าว เช่นข่าวเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม ปี2560 เมญ่าและกุ๊กกิ๊ก 2 สาวไลฟ์สดโชว์วาบหวิวเต้นถอดเสื้อผ้าขายสินค้าบนเว็บไซต์ฟุตบอลและเพจFacebook เกือบ 30 คลิป ข่าวแม่อายุ25 ปีไลฟ์สดโชว์ลามกร่วมเพศกับสามีแลกเงิน400 บาทซึ่งเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนธันวาคม ปี2560 และข่าวเมเปิ้ล สาวไลฟ์สดโชว์ถอดเสื้อผ้าทั้งตัว ใช้เวลา 1-2 ชม.มียอดวิวคนดูเกือบล้าน รวมไปถึงภาพถ่าย หรือคลิปอื่นๆอีกมากมายทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว อาทิ แม่ค้าขายครีมทาอวัยวะเพศ ทั้งนี้ ได้มีการนำเสนอภาพที่ลามก เสียง สีหน้า และท่าทางส่อเสียดถึงการมีเพศสัมพันธ์ โดยอนาจารลงบนโซเชียลมีเดีย ภาพพริตตี้โชว์เนินอก วาบหวิว ขายครีม เครื่องสำอาง หรือเรียกเรตติ้งยอดติดตามเพื่อให้มีผู้จ้างงาน บางคนเป็นเพียงผู้ใช้เฟซบุ๊กธรรมดา แต่ภาพที่นำเสนอแต่ละภาพนั้นเปรียบสเมือนนางแบบปฏิทินนู้ด หรือดาราดังหนังเอวีกันเลยทีเดียว

สิ่งเหล่านี้อาจพบเห็นได้จากการแนะนำบนฟีดเฟซบุ๊ก การกดไลค์ ความชอบส่วนตัว หรือจากที่เพื่อนกดไลค์ กดแชร์มาเนื่องจากการที่เราเข้าไปกดไลค์ กดแชร์บางอย่าง จะมีส่วนช่วยในการเพิ่มการมองเห็น และจะเป็นตัวส่งเสริมให้โพสต์นั้นๆ ปรากฏบนฟีดนานยิ่งขึ้น ทั้งนี้ จะปรากฏให้เห็นบ่อยในกลุ่มของวัยรุ่นจนถึงวัยทำงานโดยส่วนใหญ่ ภาพเหล่านี้มีให้พบเห็นจำนวนมาก และเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว วัยรุ่นไทยหลายคนนิยมเรียกยอดไลค์ หรือยอดคนมีส่วนร่วมเพื่ออยากดัง เพราะการดังจะนำไปสู่ค่าโฆษณา และรายได้จำนวนมาก จึงก่อให้เกิดการตั้งกลุ่ม หรือเพจต่างๆมากมาย โดยเฉพาะเพจภาพโป๊เปลือย หรือวิดีโอไลฟ์สดโชว์ อาทิ กลุ่มคลับเอ คลับบี คลับซี หรือเพจสาธารณะที่เป็นชื่อส่วนบุคคล และอื่นๆอีกมากมายที่มี “เรท” กว่าที่กล่าวมาข้างต้น

ยกตัวอย่างประเด็นที่เป็นวิพากษ์วิจารณ์ คือ กรณีของ “เฟิร์ส” แม่ค้าออนไลน์ที่ลงทุนรีวิวครีมก้นขาว โดยเปิดก้นตนเองเพื่อสาธิตถึงการทาครีมยี่ห้อหนึ่งที่ทำให้ผิวขาวด้วยการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมบอกสรรพคุณและเน้นทาบริเวณก้นโดยเฉพาะ การกระทำดังกล่าวทำให้เกิดเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า การกระทำของเธอคนนี้ไม่เหมาะสมต่อสังคม และบางคนก็ตั้งข้อสังเกตว่าการแข่งขันทางการตลาดมาถึงจุดๆนี้ได้อย่างไร ที่น่าตกใจคือกรณีของเฟิร์สนี้หลายคนมองว่า“ไม่ใช่เรื่องใหญ่และเป็นประเด็นที่ต้องเป็นเรื่องดราม่า ยอมรับว่าสิ่งที่ทำนั้นดูเปลืองตัวมากเกินไป แต่ยังไงสุดท้ายนั่นคืองาน เพราะงาน เพราะเงิน เพราะการตลาดมันแข่งขันกันสูงจึงเลือกทำ”

การมีคนแสดงความคิดเห็นขัดแย้งกัน รวมทั้งผู้ผู้สร้างกรณีอื้อฉาวออกมาอ้างเหตุผลเอง ทำให้ต้อง

ย้อนกลับไปพิจารณาถึงภาพของวัฒนธรรมไทยที่มีมาช้านาน อดีตแต่ก่อนนั้น สังคมไทยนับว่ามีความเคร่งครัดในเรื่องของวัฒนธรรม มีค่านิยมการรักนวลสงวนตัวของหญิงไทย เนื่องจากหากเกิดการพลาดพลั้งทางเพศมาฝ่ายหญิงจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะจะเป็นฝ่ายที่ตั้งครรภ์ และหากโดนกระทำจะเป็นฝ่ายที่ได้รับความเสียหาย หรือส่งผลกระทบต่อชีวิตมากที่สุด เพราะต้องสูญเสียอะไรหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำให้เสียคุณค่าในตัว รวมทั้งศักดิ์ศรีของความเป็นหญิงไทย แต่พฤติกรรมที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้ามกับค่านิยมเหล่านั้น โดยหลายคนไม่รู้เลยว่าการกระทำดังกล่าวอาจขัดต่อวัฒนธรรมไทยอันดี

ข้าพเจ้าเห็นว่า พฤติกรรมข้างต้น อาจได้เงินค่าจ้างจำนวนมหาศาล เรียกความสนใจ หรือเพิ่มยอด engagement เยอะพอสมควรก็จริง แต่ก็ใช่ว่าจะอยู่กับเราได้นานและยั่งยืน เหตุเพราะอะไร? ก็เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยภายนอกที่ใครๆก็ทำได้ ใครๆก็แย่งมาจากเราได้ด้วยการโชว์ที่ดีกว่า ทำอะไรที่ดูน่าตื่นเต้นเร้าใจกว่า ดังคำพูดที่ว่า“อากาศเปลี่ยน จิตใจคนหรือจะไม่เปลี่ยนเช่นอากาศ” เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลง ความชอบของคนก็ย่อมเปลี่ยนไป คนเราเสพอะไรซ้ำซากไม่ได้นาน เมื่อเจออะไรใหม่ๆ ที่ดีกว่า ก็ย่อมสนใจสิ่งนั้นและเลือกที่จะอยู่กับสิ่งนั้นมากกว่า และอาจจะไม่สนใจสิ่งเดิมต่อไป แต่ การขายรูปกายหรือหน้าตา เต้นโชว์เปลือย ถ่ายรูปโป๊นั้นกลับส่งผลต่อชีวิตไปแสนนาน

ดังนั้น เราควรจะทำในสิ่งที่อยู่นานและไม่ส่งผลเสียต่อชีวิต สร้างผลงานอย่างสร้างสรรค์ เพราะผลงานการสร้างสรรค์ไม่สูญหายไปไหน มันจะอยู่กับตัวเราเสมอ เรียกว่า “เงินขโมยได้ แต่สติปัญญาไม่มีใครขโมยไปจากเราได้”และยิ่งเมื่อเราได้ลองคิดไอเดียดีๆดูซักเรื่องย่อมมีไอเดียใหม่ๆเกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆเสมอ ซึ่งก็มีหลายคนทำได้ อาทิ

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ThunyaOuttamchai” ได้โพสต์คลิปวิดีโอบัณฑิตป้ายแดงจากสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ซึ่งได้เต้นโคฟเวอร์โชว์ หลังรับปริญญา เพียงคลิปเต้นธรรมดาที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ไม่มีการโชว์โป๊เปลือย แต่ก็เรียกยอดไลค์ได้จำนวนกว่าหลักหมื่นไลค์ จำนวนแชร์หลายกว่าพันแชร์ และยอดคนมีส่วนร่วมอีกจำนวนมากมาย รวมไปถึงการได้ลงข่าวจากสื่อต่างๆไม่ว่าจะเป็นเมเนเจอร์ออนไลน์ทรูโฟว์ยู เป็นต้น ทั้งนี้ ยังเป็นการสร้างสีสันให้แก่มหาวิทยาลัย และเป็นไอเดียที่ดีสำหรับบัณฑิตมหาวิทยาลัย หรือสถาบันโรงเรียนต่างๆ ที่เมื่อจบแล้วอยากสร้างความทรงจำดีๆที่ตนเองเคยร่วมทำมาขณะเรียน หรือไอเดียดีๆในวันรับปริญญาหรือใบประกาศนียบัตรอีกด้วย

หรือ บล็อกเกอร์เว็บเพจบนสื่อโซเชียลมีเดีย ที่มีการสอนการแต่งหน้าลุคต่างๆที่ไม่ซ้ำใคร ภายในตัวเพจมีการขายเครื่องสำอาง หรือครีมบำรุงต่างๆ ทั้งนี้ล้วนเป็นความสามารถที่ดูเหมือนขายหน้าตา แต่จริงๆ แล้วนั้น แทรกมาด้วยการสอนแต่งหน้าลุคต่างๆที่เป็นเทรนด์และคนนิยม ไม่ว่าจะเป็นการสอนทำผม การสอนเรื่องแฟชั่น การคิดแคปชั่น คำคม หรือมุกตลก ภาพวาดการ์ตูน การทำกราฟิกล้อเลียนชีวิต และอื่นๆอีกมากมายที่มีให้เลือก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความสามารถเฉพาะตัวที่ไม่มีใครขโมยไปจากผู้สร้างสรรค์ได้ และแสดงความเป็นตัวของตัวเอง ใครที่ชอบก็จะติดตาม และจะต้องอัพเดตข้อมูลหรือเคล็ดลับดีๆลงบนเพจ หรือหน้าฟีดอยู่บ่อยๆเสมอ เพื่อให้คนดูที่ติดตามได้ทราบความเคลื่อนไหว และเพจไม่ดูร้างจนคนคิดว่าไม่ได้ทำเพจต่อแล้ว

หรือเพจที่ชื่อว่า Toolmorrow เป็นเพจที่มีการสร้างเนื้อหาอย่างสร้างสรรค์และผลิตเนื้อหาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต ปัญหาในด้านความรักของวัยรุ่น ต่างมีการให้คำแนะนำดีๆ และเสนอเนื้อหาคอนเทนต์ที่ประสบกับผู้รับสารโดยตรง

เพจGreenpeace Thailandเพจที่รณรงค์และให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ การอนุรักษ์ป่า และการปลูกฝังให้คนหันมาสนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากขึ้น ทั้งนี้การเล่าเรื่องเนื้อหาของแต่ล่ะเพจแตกต่างกันไป แต่สิ่งที่น่าสนใจคือมีการเล่าเรื่องแบบ Story telling ควบคู่ด้วย

จากกรณีที่ยกตัวอย่างมา จะเห็นว่า น่าสนใจมาก ข้าพเจ้าจึงอยากแนะนำเคล็ดลับสำหรับผู้ที่อยากจะผลิตเนื้อหาเพื่อเรียกยอดไลค์ หรือยอดengagement ดังนี้

ประเด็นแรก คือการคิดคอนเทนต์ที่ดูใหม่ ไม่เหมือนใคร ดูเรียล ดูน่าเชื่อถือ และเข้าถึงคนอ่านได้ดี อ่านแล้วได้เห็นภาพความเปลี่ยนแปลงต่างๆ เป็นฉากๆ เป็นสตอรี่

ประเด็นที่สอง การหา Reference ได้ง่าย เขียนได้แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ให้ประโยชน์แบบตรงไปตรงมา

ประเด็นที่สาม การเล่าเรื่อง ออกแบบให้น่าสนใจในความยาวกำลังดีได้ ถ้าดีก็ช่วยให้คนอ่านเพลิดเพลินและเข้าใจ แต่ถ้ายังไม่ดี ก็อาจจะอ่านแล้วไม่ชอบ หรือไม่เข้าใจได้เช่นกัน

สุดท้ายประเด็นที่สี่ การเปรียบเปรยสิ่งใดสิ่งหนึ่งกับอีกสิ่งหนึ่ง เพื่อใช้สิ่งนั้นช่วยทำให้คนเกิดความเข้าใจ Analogy ที่ดี จะทำให้คนเข้าใจคอนเซปต์ของเรื่องยากๆ ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ในขณะที่ถ้าเลือกการเปรียบเปรยที่ไม่ดี ก็อาจจะทำให้คนเกิดความเข้าใจผิด หรือรู้สึกไม่เห็นด้วย ไม่เชื่อถือเราก็เป็นได้

การผลิตสื่ออย่างสร้างสรรค์ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อภาพลักษณ์ของตัวเรา แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อสังคม รวมถึงเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ดีงาม

แค่นี้ไม่โชว์โป๊ก็ดังได้!

 

 

 


#feedDD #MASS

 

ติดตามเรื่องราวดีๆ อัพเดท สื่อเป็นโรงเรียนของสังคม ที่แฟนเพจ สื่อเป็นโรงเรียนของสังคม ที่นี่






โครงการสื่อเป็นโรงเรียนของสังคม (Media As Social School)

128/177 ชั้น 16 อาคารพญาไทพลาซ่า ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
128/177 Phayatai Plaza,  16th Fl., Phayathai Rd., Rajthevee, Bangkok 10400 Thailand

โทรศัพท์ : 02-298-0987-8 โทรสาร : 02-298-0989
อีเมล : [email protected]