'เมื่อทุกอย่างกำลังจะไปได้ด้วยดี
แต่กลับต้องพังเพราะอะไร?'
จาก ชโลทร พูลศรี เรื่องความฝัน
หวาน เป็นนักศึกษาปี 1 เพิ่งเข้ามาศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ หวานจะมีเพื่อนสนิทอยู่ 2 คนชื่อว่าต้าร์กับแนน หวานอยู่ในมหาวิทยาลัยนี้อย่างมีความสุขได้เรียนรู้อะไรมากมายหลายอย่างแม้ว่าจริง ๆ แล้วความฝันของหวานอยากไปเรียนที่ต่างประเทศ แต่หวานเป็นคนติดเพื่อนมาก ชอบสังคมแบบนี้ และวัฒนธรรมแบบนี้จึงยังไม่คิดที่จะไปเรียนต่อ และอีกอย่างหวานเพิ่งเปิดร้านเบเกอรี่ซึ่งเป็นร้านที่หวานชอบและรักมันมาก ส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่ที่นี่หลังเลิกเรียน วันนี้เมื่อหวานกลับบ้าน อยู่ ๆ พ่อก็เข้ามาคุยกับเรื่องเรียนต่อต่างประเทศ บอกว่าที่นั่นเขาเปิดรับสมัครนักเรียนแล้ว อยากให้ไปเรียนพ่อจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยโดยไม่ได้ปรึกษาอะไรเลย แต่หวานยังไม่อยากไป หวานอยากจะเรียนให้จบปริญญาตรีก่อน อยากเจอเพื่อนอยากอยู่กับเพื่อนอยากเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่นี่ไว้ให้ได้มากที่สุด พ่อไม่เข้าใจอะไรเลย ต้องการให้หวานเรียนในแบบที่ท่านอยากให้เรียน แต่หวานไม่ชอบการบังคับ ไม่ชอบที่พ่อต้องมาก้าวก่ายชีวิตมากขนาดนี้ ที่ผ่านมาหวานก็ยอมทำตามทุกอย่างแล้วแต่เรื่องเรียนหวานอยากจะทำตามใจหวานบ้าง อยากจะทำในสิ่งที่อยากทำบ้าง หวานทะเลาะกับพ่อหนักมากกว่าทุกครั้งที่เคยทะเลาะกันแต่พ่อไม่ยอมฟังเหตุผลอะไรเลย
พ่อ : ฉันส่งเสียเลี้ยงดูแกมาก็เพื่ออยากให้แกเรียนดี ๆแล้วเอามาปรับปรุงพัฒนาร้านที่แกทำอยู่
ฉัน : หวานบอกพ่อแล้วไงว่าหวานไปแน่ ขอแค่เรียนจบปริญญาตรีก่อนไม่ได้เหรอคะ
พ่อ : ไม่ได้ ยังไงก็ไม่ได้ ฉันติดต่อมหาลัยที่โน่นไว้เรียบร้อยแล้ว แกจะต้องออกเดินทางในอาทิตย์หน้า
ฉัน : พ่อคะหวานบอกว่ายังไม่อยากไปไง
พ่อ : ฉันเสียเงินส่งเสียให้แกเรียนดี ๆทำไมแกไม่เอาล่ะ
ฉัน : ถ้าอย่างนั้นพ่อไม่ต้องมาส่งเงินให้หวานเรียนต่อแล้วละค่ะ หวานจะหาเงินส่งตัวเองเรียนเอง ต่อจากนี้ไปหวานจะไม่ขอเงินพ่อเลยสักบาท
ตอนนั้นหวานโมโหมากเลยหนีออกมาจากบ้าน หลังจากนั้นหวานก็ย้ายมาอยู่คอนโดกับต้าร์และแนน ช่วงนี้หวานต้องตื่นเช้าทุกวันเพื่อทำขนมไปขายที่ร้านเบเกอรี่ เสร็จแล้วก็ต้องไปเรียนต่อ เป็นแบบนี้ทุกวันจนเริ่มเหนื่อยและท้อ เลยตัดสินใจออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อมาทำงานที่ ร้านเบเกอรี่อย่างเดียว
ไม่พอวันนี้มีเด็กมาทะเลาะวิวาทกันในร้านข้าวของเสียหายพังไปหมด แถมโดนผลักไปโดนเศษแก้วบาดอีก 1 ชั่วโมงผ่านไปมีอุบัติเหตุหน้าร้านอีก โอ้ยมันเป็นวันซวยอะไรเนี้ยหวานจึงรีบพาผู้ชายคนนั้นไปส่งที่โรงพยาบาลแทนเพราะแถวนั้นไม่มีใครเลยทั้งตัวของผู้ชายคนนั้นเต็มไปด้วยเลือดหัวแตกอาการน่าจะหนักหวานไม่รู้จักญาติหรือเบอร์ติดต่อคนที่เขารู้จักเลย รู้เพียงแค่ว่าเขาชื่อนายตอนนี้นายก็ยังไม่ฟื้นจึงต้องอยู่รอดูอาการก่อน เช้าวันต่อมาหมออนุญาตให้กลับบ้านได้ หวานจึงพานายมานั่งที่ร้านก่อน รอให้ติดต่อญาติให้ได้ก่อน สักพักก็มีน้องผู้หญิงคนนึงมารับหลังจากนั้นนายก็แวะมาหาหวานอยู่บ่อย ๆ บางทีก็มาป่วนจนหวานทำงานไม่ได้ และทะเลาะกันอยู่ตลอดแต่ยังพอช่วยห้ามพวกวัยรุ่นตีกันได้
วันนี้หวานรีบมาเปิดร้านแต่เช้า เพราะว่าพี่ที่หวานชอบ เขามาสั่งกาแฟไว้ บอกว่าจะมาแต่เช้าหวานมีความสุขมาก และรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้ง เวลาที่พี่เขาจะมาหรือเวลาที่เขามีปัญหาเขาก็จะมานั่งที่ร้านนี้ เล่าทุกปัญหา ให้ฟังจนหวานคิดว่าหวานมีความสำคัญต่อเขา และมีความหวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะเลิกกับแฟนแล้วหันมาสนใจ จนหวานบอกความรู้สึกขอตัวเองให้เขารู้ แต่พีเขากลับบอกว่า เขามีความสุขเวลาที่อยู่ร้านนี้ และเขามีคนที่คอยรับฟังปัญหาอยู่แล้ว เขาคิดกับหวานพียงแค่น้องสาวหวานเสียใจมาก ทั้งหมดนี่หวานคิดไปเอง พี่เขาไม่ได้คิดอะไรกับหวาน เขาไม่ได้คิดที่จะเลิกกับแฟนเขารักแฟนมาก หวานนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว ในร้านจนนายเข้ามา นายเดินเข้ามาในร้านพอดี หวานกอดนายแล้วเล่าทุกอย่างให้ฟังอยู่ ๆ พ่อก็โผล่มาที่ร้าน หวานรีบพานายไปซ่อนกลัวว่าพ่อจะเห็นที่เรากอดกัน หวานรีบพานายไปหลังร้านหลบพ่อแต่พ่อดันเห็นสะก่อน รีบวิ่งมาเรียกดังมาก หวานรีบซ้อนรถมอเตอร์ไซค์นายแล้วให้ขับออกไปอย่างเร็ว
เมื่อกลับมาที่คอนโดหวานแปลกใจมากว่าทำไมไฟในห้องจึงถูกเปิดทุกดวง หรือว่าหวานลืมปิดตอนที่ออกไปเมื่อเดินเข้าไปก็ต้องตกใจเมื่อเห็นพ่อกับแม่นั่งอยู่ในห้อง พ่อด่าว่าที่หวานวิ่งหนีไปกับผู้ชายเมื่อกลางวันนี้ แถมเป็นผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ท่าทางไม่เอาการเอางาน ดูเหมือนพวกเกกมะเหรกเกเร ถึงจะอธิบายยังไงพ่อก็ไม่ฟัง
เช้าวันต่อมามี Order เยอะมาก ลูกค้าสั่งตั้ง 200 กล่องและให้จัดส่งภายในเที่ยงนี้
ต้าร์ : โอ๊ยแกจะทำทันไหมเนี่ย
ฉัน : ทันดิแก
แนน : วันนี้ฉันกับต้าร์มีเรียนตอนเช้าคงจะไปส่งขนมให้แกไม่ได้นะ
ต้าร์ : เออ แล้วพนักงาน Part-time แกไปไหนล่ะ ฉันไม่เห็นมาหลายวันแล้ว
ฉัน : เขาลาไปดูแม่ที่ป่วยต่างจังหวัดอ๊ะแก
แนน : ฉันว่าแกต้องรับพนักงานประจำแล้วแหละ คิดจะลาก็ลาแบบนี้ไม่ไหวนะแก
ฉัน : เดี๋ยวฉันจะลองติดป้ายรับสมัครดูละกัน
วันนี้ลูกค้าเต็มร้านจะเอาเวลาไหนไปส่งขนมให้ลูกค้าก่อนเที่ยง หวานกำลังวุ่นกับการทำขนม และเสิร์ฟกาแฟให้ลูกค้า บังเอิญว่านายโผล่มาพอดี จึงให้เขาช่วยเสิร์ฟกาแฟและขนมให้และกว่าลูกค้าจะหมดร้านเล่นเอาเราเหนื่อยแทบจะเป็นลม
ฉัน : ลูกค้าหมดแล้ว ขอบใจนายมากนะที่มาช่วยฉันพอดี
นาย : ไม่เป็นไร แล้วลูกค้าเยอะอย่างนี้ทุกวันเลยเหรอ
ฉัน : ก็ไม่ทุกวันหรอกแต่บังเอิญวันนี้พนักงาน Part-time ลาพอดี เลยไม่มีคนช่วยตอนนี้ฉัน ก็กำลังจะรับสมัครพนักงานประจำอยู่
นาย : งั้นผมขอสมัครเป็นพนักงานประจำได้ไหม
ฉัน : อย่างนายเนี่ยนะจะทำได้ วันนั้นทำแก้วจานแตกไปไม่รู้กี่ใบ ลูกค้าฉันไม่หนีไปหมด ร้านก็ดีแล้ว
นาย : คุณเชื่อผมสิผมทำได้ ผมจะต้องพิสูจน์ให้พ่อคุณเห็นว่าผมเลิกเกเรแล้ว พ่อคุณจะได้รู้ว่า ผมดูแลลูกสาวเขาได้ (ยิ้ม)
ฉัน : อะไรของนายเนี่ย ลองดูก็ได้มีอะไรเสียหายอีกฉันหักตังค์นายนะ
นาย : ครับ
หลังจากที่นายทำงานได้สักพักหนึ่ง นายขยันขันแข็งไม่เคยมาสาย แต่วันนี้มีวัยรุ่นกลุ่มเดิมมาที่ร้าน ทะเลาะกันข้าวของเสียหายหมดทุกอย่าง นายโดนพวกนั่นกระทืบ ร้านพังลูกค้าหนีหายไปหมด ไม่มีใครมากินที่ร้านอีกเลยจากที่ทุกอย่างกำลังดี ตอนนี้พ่อรู้เรื่องทุกอย่างเราทะเลาะกันพ่อตบหน้าหวาน แล้วไล่ผู้ชายคนนั้นออกจากร้านไป บอกให้เลิกยุ่งกับผู้ชายคนนั้นแล้วไปเรียนตามที่บอกไว้ หวานตัดสินใจหนีออกมาอีก เก็บตัวไม่ออกไปไหน ไม่เจอเพื่อน และไม่ติดต่อใครอีกเลย
ติดตามเรื่องราวดีๆ อัพเดท สื่อเป็นโรงเรียนของสังคม ที่แฟนเพจ สื่อเป็นโรงเรียนของสังคม ที่นี่
โครงการสื่อเป็นโรงเรียนของสังคม (Media As Social School)
128/177 ชั้น 16 อาคารพญาไทพลาซ่า ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
128/177 Phayatai Plaza, 16th Fl., Phayathai Rd., Rajthevee, Bangkok 10400 Thailand
โทรศัพท์ : 02-298-0987-8 โทรสาร : 02-298-0989
อีเมล : [email protected]