เรื่องราวของ "ชายแขนเดียว" และ "เทอร์โบ"
สุนัขสุดที่รัก.....ของเขา
จาก ธนณัฎฐ์ อารยสมโพธิ์ เรื่องชายแขนเดียว
เทอร์โบกระโดดใช้ขาหน้าทั้งสองเกาะขอบบ่อ แล้วชะโงกหน้าลงไปในบ่อน้ำ เอียงหน้ามองผืนน้ำซึ่งกำลังสะท้อนใบหน้ายาวแหลม หูตั้งสีน้ำตาลเข้มสองของมัน ถัดไปคือใบหน้าซูบผอมของชายคนหนึ่ง เขาขมวดคิ้ว สายตาเลื่อนลอย ก่อนจะหันมามองเทอร์โบ แววตาโศกเศร้าเปลี่ยนเป็นสงสัย เทอร์โบกระดิกหาง เงยหน้าจากบ่อน้ำจ้องมองชายคนนั้น ชายผู้ซึ่งมีแขนขวาเพียงข้างเดียว
ชายแขนข้างเดียวหันมองเทอร์โบก่อนเดินห่างออกไปบ่อน้ำ เทอร์โบมองกลับลงไปในบ่อน้ำนั้นอีกครั้ง อยากรู้เหลือเกินว่าชายแขนเดียวมองหาสิ่งใดในมวลน้ำซึ่งมิอาจประมาณคงามลึก มืดมิด และเวิ้งว้างนั้น
“โฮ่ง อ้ง ” เทอร์โบเห่า มีเพียงเสียงของมันเองที่สะท้อนกลับมาอย่างแผ่วเบา มันรีบวิ่งตามชายแขนเดียวไป
เทอร์โบเคยได้ยินเรื่องของชายแขนเดียวผู้นี้มาตั้งแต่มันจำความได้ แม่ของมันเคยเล่าให้ฟังว่า ในดินแดนอันเร้นลับห่างไกลมีชายแขนเดียวผู้หนึ่งออกเดินทางท่องไปทั่วโลกเพื่อตามหาแขนที่หายไปหนึ่งข้าง ทว่าเขากลับพบว่าเขาไม่อาจหาแขนที่หายไปนั่นได้พบ เขาจึงเสาะหาหนทางเพื่อหลีกหนีความจริงและความเจ็บปวด และเขาเข้าใจว่าความตายจะพาเขาเดินทางออกไกลห่างความจริงและความเจ็บปวดนี้ เขาจึงเสาะหาวิธีฆ่าตัวตายที่ดีที่สุด “วิธีฆ่าตัวตายที่ดีที่สุดคืออะไร ?” เทอร์โบสงสัย ฆ่าตัวตายคืออะไร ฆ่าตัวเองให้ตาย ฆ่าตัวอะไรในตัวเราให้ตาย หรือฆ่าอะไร เทอร์โบสงสัยหลายสิ่งรวมถึงสงสัยว่าชายคนนี้ใช่ชายแขนเดียวกับที่แม่เล่าหรือเปล่า แต่สุดความสามารถที่เทอร์โบจะถามแม่ได้เพราะแม่ของมันตายจากไปนานแล้ว ก่อนที่มันจะกลายเป็นหมาจรจัดซัดเซพเนจรไปตามเมืองต่าง ๆ อย่างทุกวันนี้
ชายคนนั้นเดินเข้าสู่หมู่บ้าน หายลับไปในประตูของห้องเช่าเก่าแก่ เทอร์โบมองตาม ถอนหายใจก่อนทิ้งตัวลงหน้าประตูบานนั้น เอาหน้าแนบกับพื้นและหลับไป
เทอร์โบลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ฟ้ามืดสนิท มีเพียงดวงไฟไม่กี่ดวงที่ส่องสว่างอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ ชายแขนเดียวเดินออกมาจากประตู เทอร์โบวิ่งตามเขา อยากถามเขาว่าเขาค้นพบสิ่งที่ตามหาหรือยัง เขาเดินไปจนสุดทางถนนก่อนเลี้ยวเข้าซอยเล็กข้างทาง เทอร์โบไม่อาจตามเขาไปได้ เพราะมันได้กลิ่นอาหารลอยมาจากถังขยะ เทอร์โบหยุดที่กองถังขยะคุ้ยหาอาหารที่ส่งกลิ่นหอม อาจจะเน่าไปนิดแต่ก็อร่อยดี ต่อชีวิตให้ยืดยาวไปอีกวัน
“แฮ่. . .” หมาประจำซอยส่งเสียงเล็ดไรฟัน เทอร์โบเงยหน้าจากเศษกระดูกไก่ทอด ไม่มีใครยืนอยู่ มันเอียงคอไปทางขวามือจึงเห็นหมาตัวโตยืนยิงฟันอยู่ เทอร์โบรีบวิ่งเปิดแน็บออกมาจากกองขยะนั้น หิ้วท้องหิวเดินล่องลอยไปตามถนน มันเดินไปตามทางที่เห็นว่าชายแขนเดียวเดินไป แต่คงสายเกินไปเสียแล้วที่จะรู้ว่าเขาไปหยุด ณ ที่แห่งใด มันเดินไปตามทางจมูกเฝ้าดมกลิ่นอาหาร ส่วนสายตาก็คอยสอดส่องหาชายแขนเดียว เริ่มดึกแล้วตอนที่มันเดินมาถึงจัตุรัสกลางหมู่บ้าน ร้านรวงต่าง ๆ เริ่มปิดไฟ มีเพียงก็แต่ร้านขายมีดที่ยังเปิดไฟสว่าง แล้วใครคนนั้นคนที่มันตามหาก็ปรากฏชัดในดวงตาของมัน ชายแขนเดียวยืนคุยกับเจ้าของร้านขายมีดด้วยหน้าตาเคร่งเครียด เทอร์โบดีใจวิ่งไปหยุดที่หน้าร้านนั้น มันจ้องเข้าไปในร้าน มีดหลากหลายชนิดเรียงรายอยู่บนเคาน์เตอร์ ชายแขนเดียวเพ่งมองมีดต่าง ๆ ด้วยท่าทางจริงจัง ส่งเงินให้เจ้าของร้าน เจ้าของร้านมีดจึงมอบกระดาษแผ่นหนึ่งให้เขา ก่อนเขาจะเปิดประตูออกมาจากร้าน เสียงกระดิ่งที่ร้านดัง กรุ๊งกริ๊ง ชายแขนเดียวเก็บกระดาษแผ่นนั้นลงกระเป๋ากางเกง เดินกลับบ้านเช่าเก่าแก่ เทอร์โบวิ่งตามเขาไป เขาเหลือบมามองเทอร์โบ มันกระดิกหาง แววตาร่าเริงอยากรู้จักอยากรู้อยากเห็นจ้องเข้าไปในดวงตาเศร้าคู่นั้น เทอร์โบอยากถามชายคนนี้เหลือเกินว่าเขาค้นพบสิ่งที่ตามหาแล้วหรือยัง
“หิวใช่ไหม” ชายแขนเดียวหันมาพูดกับเทอร์โบ “ไม่มีอาหารเลย” เขาส่ายหน้าก่อนเดินจากไป
เทอร์โบวิ่งตามเขาไป นอนอยู่หน้าประตูบ้านเช่าเก่าแก่หลังนั้นเหมือนเมื่อตอนกลางวัน
เทอร์โบตื่นแต่เช้าตรู่ หอบท้องหิวโซเดินโต๋เต๋ไปจนถึงตลาด เช้านี้คงมีเศษอาหารให้มันประทังชีวิต หมาอ่อนแอขี้แพ้อย่างมัน ไม่กล้ากัดกับใคร ไม่มีความสามารถพอจะไปแย่งอาหารมาจากใครได้ มันเดินลึกเข้าไปถึงหลังตลาดที่ที่เด็กขนผักนั่งพักเหนื่อยกัน
“ผู้ชายคนนั้นนั่นแหละ” เสียงเด็กขนผักคนหนึ่งพูดขึ้น
“คนไหน”
“คนที่แขนขาด” เทอร์โบหยุดฟังตอนที่เด็กจนผักพูด
“เขาเสียแขนข้างหนึ่งไปเพราะอะไร ไม่มีใครรู้ หลังจากแขนขาดเขาก็เปลี่ยนอาชีพจากนักเขียนเป็นนักตามหา..”
“ไป ๆ ๆ ไอ้หมา เกะกะทางเดินจริง ๆ” เทอร์โบวิ่งหนีตอนที่ใครสักคนใช้เท้าถีบตัวมัน
มันวิ่งหนี และนึกถึงชายแขนเดียว ป่านนี้เขาจะทำอะไรอยู่ เทอร์โบเปลี่ยนใจไปบ้านเช่าเก่าแก่ ลัดเลาะไปตามถนน พยายามหลบเลี่ยงแก๊งหมาประจำซอยต่าง ๆ จนมาถึงหน้าประตูบ้านเช่าเก่าแก่ มันถอนหายใจด้วยความหิวและความเหนื่อยล้า ความหิวทำให้มันเหนื่อยเพิ่มมากขึ้น มันทิ้งตัวลงนอนหน้าประตู คางราบไปกับพื้น เฝ้าเวลาที่จะได้พบกับชายแขนเดียว และมันก็เผลอหลับไป
เนิ่นนาน ราวกับว่าล่วงผ่านมาแล้วหลายรุ่งเช้า เทอร์โบครึ่งหลับครึ่งตื่น ขณะที่พระอาทิตย์ตั้งตรงอยู่บนศีรษะ มันเห็นขายแขนเดียวเดินมาตามถนน ใบหน้าซูบผอมของเขาดูซูบผอมยิ่งกว่าเดิม ริ้วกังวลฉาบทับทุกส่วนของใบหน้า ดวงตาเหม่อลอย คิ้วขมวด ปากเม้มสนิท เทอร์โบไม่อาจรู้ได้ว่าเขาไปที่แห่งใดมา มันมองดูเขา แววตาสดใสแม้ว่าจะรู้สึกอ่อนล้ามากก็ตาม ชายแขนเดียวมองมันด้วยสายตาสงสัย เพียงเสี้ยววินาทีดวงตาของชายแขนเดียวก็เปลี่ยนไป เขาเลิกคิ้ว และด้วยแววตาที่เทอร์โบไม่อาจจะคาดเดาความรู้สึก ชายแขนเดียวนั่งยองลงข้างมัน เขาวางเชือกเส้นใหญ่ลงบนพื้นก่อนจะออกเดินไปตามถนนอีกครั้ง ผ่านไปราวสิบนาทีเขากลับมาพร้อมถุงอาหาร กลิ่นหอมลอยอบอวลอยู่ใกล้จมูกของเทอร์โบ ชายแขนเดียววางไก่ย่างไว้หน้าจมูกเทอร์โบ ก่อนที่เขาจะหายลับไปหลังประตูห้องเช่าเก่าแก่พร้อมกับเชือกของเขา เทอร์โบกินไก่นั้นอย่างรวดเร็ว นึกขอบคุณชายแขนเดียวที่ต่อลมหายใจให้มันอีกหนึ่งวัน
หลังจากวันอันร้อนระอุที่ชายแขนเดียวเอาไก่ย่างให้เทอร์โบ เทอร์โบก็ไม่ได้พบเขาอีกหลายวัน อาจจะเป็นเพราะหลายวันมานี้ฝนตกหนักตลอดทั้งวันทั้งคืน เขาจึงไม่ได้ออกมาจากห้องพัก เทอร์โบเฝ้ารอเขาอยู่ มากกว่าการถามคำถามที่ค้างคา มันอยากขอบคุณเขา สำหรับอาหารมื้อนั้น หากไม่ได้เขามันหิวและตายไปแล้ว ขณะที่เทอร์โบกำลังจะผล็อยหลับไป ประตูบ้านเช่าเก่าแก่ก็เปิดออก ชายแขนเดียวกับสีหน้ากังวลของเขา ออกเดินไปตามทาง เทอร์โบวิ่งตามเขาไป เส้นทางนี้มันคุ้นเคยดี มันคือทางไปบ่อน้ำ
ชายแขนเดียวมองดูแขนของตนเองที่มีเพียงข้างเดียว หน้าตาของเขาเศร้าสร้อย แขนเพียงข้างเดียวที่เหลืออยู่ทำให้เขาดีใจที่อย่างน้อยเขาก็ยังมีแขน มีมือไว้ใช้ทำนู้นนี่ได้ หรือเขาเศร้าที่เหลือแขนเพียงข้างเดียว และต้องเสียแขนอีกข้างหนึ่งไป เทอร์โบก็สุดจะรู้ได้ มันเฝ้ามองเขาอย่างเงียบงัน สีหน้าเศร้าสร้อยของชายแขนเดียวเปลี่ยนเป็นมุ่งมั่นทว่ากลับมีน้ำตาไหลออกมา เขาเดินไปใกล้บ่อน้ำ ท่าทางของเขาเหมือนกับคนที่กำลังจะกระโดดลงไปในนั้น เทอร์โบงวยงง มันเดินไปใกล้ชายแขนเดียวแล้วมองลงไปในน้ำ มันเอียงคอ ตาของมันสบกับตาของชายแขนเดียว ในตอนนั้นเองที่ชายแขนเดียวสังเกตเห็นว่าเทอร์โบสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเพียงข้างเดียว ชายแขนเดียวทรุดนั่งลงที่ข้างบ่อน้ำ เขาร้องไห้ ร้องไห้จนตัวโยน เทอร์โบเดินเข้าไปใกล้เขามากยิ่งขึ้น ความรักฉายชัดบนดวงตาเพียงข้างเดียวที่มันมีอยู่ ชายแขนเดียวใช้มือเพียงข้างเดียวที่เหลืออยู่ของเขาลูบหัวเทอร์โบ มันกระดิกหาง ชายแขนเดียวส่งยิ้มให้เทอร์โบ เป็นครั้งแรกที่มันเห็นรอยยิ้มของชายแขนเดียวแม้จะเป็นรอยยิ้มที่บางเบาและเหนื่อยล้าเต็มทีก็ตาม วินาทีนั้นเองเทอร์โบคิดว่า ชายแขนเดียวคงได้ค้นพบสิ่งที่เขาตามหามาเนิ่นนานแล้ว
ติดตามเรื่องราวดีๆ อัพเดท สื่อเป็นโรงเรียนของสังคม ที่แฟนเพจ สื่อเป็นโรงเรียนของสังคม ที่นี่
โครงการสื่อเป็นโรงเรียนของสังคม (Media As Social School)
128/177 ชั้น 16 อาคารพญาไทพลาซ่า ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
128/177 Phayatai Plaza, 16th Fl., Phayathai Rd., Rajthevee, Bangkok 10400 Thailand
โทรศัพท์ : 02-298-0987-8 โทรสาร : 02-298-0989
อีเมล : [email protected]