หมวดหมู่ ข่าวสาร/กิจกรรม , โดย : admin , 14 มีนาคม 2567 / อ่าน : 121

“ไทยเบิ้ง นวัตวิถี ชีวีดีเอ๊อะ” ผลงานสื่อสร้างสรรค์ และกิจกรรมเพื่อการรณรงค์ ในโครงการอย่าปล่อยให้เด็กอ้วน (ลดหวาน มัน เค็ม เพิ่มผัก และผลไม้) ปี 5 ระยะที่ 1 เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ของโรงเรียนบ้านเขาขวาง ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ภายใต้การสนับสนุนของแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส.

กิจกรรมเริ่มต้นด้วยพิธีเปิด โดย ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา ฯ นางสมพร เพ็ชรพลอย กล่าวต้อนรับคณะติดตามผลการดำเนินโครงการ ฯ โดย นางสาวพบจันทร์ ศรีสลุง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเขาขวาง จากนั้นรับชม VTR รายงานผลการดำเนินโครงการ ฯ และชมการออกกำลังกาย “ป๊ะโทนป๊ะ…ผ้าขาวม้าพาลดพุง”

จากนั้นคณะติดตามผลการดำเนินโครงการ ฯ รับชมนิทรรศการ “หน้าเดินรวมใจไทยเบิ้ง” ภายใต้ธีม “ไทยเบิ้ง นวัตวิถี ชีวีดีเอ๊อะ” ซึ่งเป็นงานแสดงผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในโครงการอย่าปล่อยให้เด็กอ้วนฯ ของโรงเรียนบ้านเขาขวาง อันประกอบด้วย 1. บูธ "ให้รู้ซะเบิ้ง" สร้างความตระหนักถึงโทษของโรคอ้วน มุ่งเน้นในการลดอาหารหวาน มัน เค็ม เพิ่มผักและผลไม้ ทั้งสร้างความตระหนักใน การรู้เท่าทันสื่อโฆษณาชวนเชื่อ 2. บูธ "เชฟใหญ่ไทยเบิ้ง" นักเรียนทำกิจกรรม Focus Group ในหัวข้อ “อาหารดีชีวีมีสุข” ร่วมกับครูภูมิปัญญาจากชุมชนไทยเบิ้ง และศูนย์พิพิธภัณฑ์ไทยเบิ้งโคกสลุง รวมทั้งปู่ ย่า ตา ยาย และผู้สูงอายุในตำบลโคกสลุง 3. บูธ ป๊ะโทนป๊ะ ผ้าขาวม้าลดพุง โดยนักเรียนแกนนำร่วมกันเรียนรู้การออกกำลังกาย โดยใช้อุปกรณ์ออกกำลังกาย “ผ้าขาวม้าลดพุง” ประกอบเพลง “ลดพุงเบิ้ง” สุดท้ายที่ 4. บูธ "เป๊ย! สนุกเอ๊อะ" เป็นกิจกรรมที่ผ่านการบูรณาร่วมกับวิชาเรียน อาทิ ฐาน “วิทย์-คณิต Fit & Fun” บูรณาการกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ โดยให้นักเรียนศึกษาฉลากโภชนาการของสินค้า และจัดประเภท เขียว เหลือง แดง

_______________________________________________________________________________________________________________________

โดยการนำเสนอผลงานผ่านนิทรรศการครั้งนี้ ของโรงเรียนบ้านเขาขวาง ได้เกิดการมีส่วนร่วมของเด็กนักเรียน คณะครู ผู้ปกครอง ตามวัตถุประสงค์ของโครงการก็เพื่อร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคของเด็กนักเรียน เลือกบริโภคอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ผ่านการใช้สื่อและกิจกรรมสร้างสรรค์ที่หลากหลาย มุ่งใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ด้านสุขภาวะ มีการถ่ายทอดให้เกิดแรงบันดาลใจเพื่อการสื่อสารสุขภาวะ โดยให้ความสำคัญกับครูผู้สอน เด็กนักเรียน พ่อแม่ ผู้ปกครอง และชุมชน ในการกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมตระหนักรู้เรื่องสุขภาพ การรู้เท่าทันสื่อและติดอาวุธความรู้ให้เยาวชนมีสุขภาพดีในทุกมิติ ด้วยการผลิตสื่อในประเด็นสุขภาวะและเผยแพร่นวัตกรรมสู่สังคมอย่างยั่งยืน