สสส.ส่งเสริมอปท.เมืองหมอแคนเปิดถนนคนเดิน 100 ปีนำร่องภาคอีสานปลุกแรงบันดาลใจสร้างสังคมแห่งความสุข : เดลินิวส์

          จังหวัดขอนแก่น เป็นศูนย์กลางในการพัฒนา เป็นเมืองหลวงของภาคอีสาน ที่มีการขับเคลื่อนที่ก่อให้เกิดการพัฒนาในทุก ๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง โดย ต.ท่าพระ ถือเป็นเมืองหน้าด่านของจังหวัดขอนแก่น ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดนิ่ง ประกอบด้วย 15 หมู่บ้าน โดย ต.ท่าพระ อยู่ในส่วนพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาลตำบลท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ล่าสุด เทศบาลตำบลท่าพระได้เปิดงานตลาดถนนคนเดินท่าพระ 100 ปี หนึ่งในโครงการสปาร์คยู ปลุก-ใจ-เมืองภาคอีสาน ที่มีสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ให้การสนับสนุนงบประมาณ พร้อมทั้งชาวชุมชนท่าพระได้ร่วมแรงร่วมใจกันดำเนินงาน โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมนายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น และนายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น มาร่วมเป็นเกียรติในพิธี
          นายพิสุทธิ์ อนุตรอังกูร นายกเทศมนตรีตำบลท่าพระ กล่าวว่า สำหรับตลาดถนนคนเดินท่าพระ 100 ปี เป็นสถานที่เก่าแก่ที่ผูกพันกับวิถีชีวิตชาวบ้านในชุมชน ต.ท่าพระ ด้วยเหตุที่อาคารที่ทำการสถานีรถไฟท่าพระที่ตั้งอยู่ติดกับตลาดร้อยปีถนนคนเดินท่าพระกำลังจะถูกรื้อทิ้ง ชาวตำบลท่าพระจึงลุกขึ้นเดินหน้าขออนุรักษ์เพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน เพื่อให้เด็กเยาวชนคน รุ่นใหม่ได้รู้จักประวัติ ศาสตร์ของเมือง ได้รู้
          จักหวงแหนสิ่งที่เป็นของคนท่าพระให้ได้อยู่ในชุมชนต่อไป ถือเป็นการปลุกใจคนท่าพระให้มาทำสิ่งดี ๆ ของชาวชุมชนร่วมกัน พร้อมกับเปิดตลาดร้อยปีถนนคนเดินท่าพระที่มีอาคารบ้านเรือนเดิม ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งวัฒนธรรม และนำไปสู่การจัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้ตำบล ท่าพระต่อไป  โดยได้กำหนดให้พื้นที่ชุมชนตลาดดั้งเดิม ตั้งอยู่ถนนพาณิชย์เจริญ (ตลาดท่าพระ) ที่มีอาคารบ้านเรือนทรงโบราณรูปแบบ การปลูกสร้างเป็นแบบเดียวกันตลอดถนน ปัจจุบันยังเป็นที่ค้าขายและยังคงความเป็นอาคารดั้งเดิม อัน เป็นเอกลักษณ์ของตลาดท่าพระสมัยก่อน
          ขณะเดียวกันสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส.ที่ให้การสนับสนุนเรื่องงบประมาณได้กำหนดให้ตลาดถนนคนเดินท่าพระ 100 ปี เป็นพื้นที่นำร่องของภาคอีสาน ในการจัดทำโครงการสปาร์คยู ปลุก-ใจ-เมืองภาคอีสานนี้ทางแผนงานสื่อศิลปวัฒน ธรรมสร้างเสริมสุขภาพของ สสส.ได้จัดทำขึ้น เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับกลุ่มภาคีเครือข่ายจังหวัดอื่น ๆ ในการศึกษาดูงาน พร้อมจัดในพื้นที่ภาคอีสานอีก คือ ปลุกคุณธรรมในใจ ไทนาดูน ที่ อ.นาดูน จ.มหาสารคาม ปลุกเยาวชนรักษ์เชียงคาน ที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เปลี่ยนขยะมารีไซเคิล ที่ชุมชนสาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น และสืบค้นเมืองเก่าบ้านเราศรีฐาน ที่ชุมชนศรีฐาน เทศบาลนครขอนแก่น นายมานพ แย้มอุทัย ผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนัก งานกองทุนสนับ สนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวเพิ่มเติมว่า โครง การนี้มีวัตถุประ สงค์เพื่อปลุกใจคนในชุมชน ปลุกพลังของคนในเมืองนั้น ๆ ให้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างเพิ่มมากขึ้น โดยอาศัยพลัง แรงกาย แรงใจของคนในชุมชน จุดประกายให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจ อันเกิดจากสายตาที่มองเห็นโอกาสใหม่ ๆ พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงและสร้างสรรค์ ทำให้บ้านเกิดเมืองนอนของตนเองดีขึ้น
          โดยอาศัยสื่อดี ที่มีทั้งสื่อบุคคล อาคารบ้านเรือน แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ โบราณสถาน โบราณวัตถุ รวมถึงพื้นที่ดีซึ่งมีทั้งพื้นที่ทางกายภาพ พื้นที่ทางความคิด และภูมิดีคือ ภูมิปัญญา ภูมิธรรม ภูมิต้านทาน ที่จะทำให้คนในสังคมนั้น ๆ มีสุขภาวะที่ดี มีครอบครัวอบอุ่น มีชุมชนเข้มแข็ง ส่งผลให้ทุกคนมีความสุข เพราะทุก ๆ พื้นที่คือ โอกาสในการเปลี่ยนแปลง
          และสำคัญที่สุดคือการปลุกจิตสำนึก หรือจิตวิญญาณที่ตระหนัก ตื่นรู้ จนค้นพบคุณค่าและความหมายพื้นที่แห่งจิตสำนึกใหม่ของพลเมืองที่พร้อมสร้างสังคมแห่งความสุขร่วมกัน ปฏิบัติ
          การเปลี่ยนเมืองด้วยสื่อและพื้นที่สร้างสรรค์ โดยมีคนในชุมชน เด็ก เยาวชน ภาคประชาชน สังคมร่วมมือกันในการเปลี่ยนแปลงเมืองตนเอง.




ศูนย์ข่าวภาคอีสานตอนบน
เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 8 มิ.ย. 2560 (กรอบบ่าย)