เวทเทรนนิ่งง่าย ๆ ที่บ้านด้วยงบไม่ถึง 20 บาท นวัตกรรมการออกกำลังกายที่หาง่ายและใช้ได้จริง
เวทเทรนนิ่ง (Weight Training) เป็นการออกกำลังกายยอดฮิตที่หลาย ๆ คนรู้จัก โดยการเวทเทรนนิ่งเป็นการออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน (Resistance Exercise) ซึ่งเป็นการฝึกฝนความแข็งแรงของกล้ามเนื้อให้สามารถชนะแรงต้าน โดยมักจะใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น ดัมเบล บาร์ยกน้ำหนัก การวิดพื้น เป็นต้น
.
การเวทเทรนนิ่งสามารถช่วยป้องกันและควบคุมโรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ ข้ออักเสบ โรคอ้วน ภาวะซึมเศร้า และยังมีประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้
.
โดยข้อแนะนำสำหรับการฝึกเวทเทรนนิ่งได้หลัก ๆ ดังนี้
.
แต่หลาย ๆ คนที่เริ่มออกกำลังกายมักมีข้อกังขากับการเวทเทรนนิ่งว่า “ไม่มีเวลาไปฟิตเฟส หรือจะใช้ซื้อดัมเบลก็ราคาแพงเกินไป” ทำให้ไม่ได้เริ่มออกกำลังกายสักที แต่หากเราลองมองรอบตัวจะเห็นว่าจริง ๆ แล้วมีอุปกร์หนึ่งอย่างที่ทุกคนสามารถใช้แทนดัมเบลได้ในราคาไม่ถึง 20 บาท นั่นก็คือ “ขวดน้ำ” นั่นเอง
.
การออกกำลังกายด้วยขวดน้ำถือว่าเป็นนวัตกรรมการออกกำลังกายที่หาได้ง่าย ราคาประหยัด ใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้ทุกคนสามารถเวทเทรนนิ่งได้ง่าย ๆ ที่บ้าน
.
โดยสามารถใช้ดัมเบลขวดน้ำในการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งเพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน ซึ่งควรเริ่มจากขวดน้ำขนาด 500 มิลลิลิตร และเพิ่มขนาดขึ้นเรื่อย ๆ หรือจะเพิ่มน้ำหนักโดยการเปลี่ยนจากการใส่น้ำเป็นวัสดุอย่างอื่นก็ได้ เช่น ทราย หรือ กรวดขนาดเล็ก เป็นต้น
.
ซึ่งการการออกกำลังกายด้วยดัมเบลขวดน้ำมีท่าทางที่หลากหลายตามจุดที่เราต้องการเสริมสร้างความแข็งแรง ซึ่งวันนี้เรามี 5 ท่าเบื้องต้นง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำตามกันได้ง่าย ๆ ดังนี้
.
นี่เป็นเพียง 5 ท่าง่าย ๆ ที่เราแนะนำสำหรับคนที่เริ่มออกกำลังกายเวทเทรนนิ่งด้วยดัมเบลขวดน้ำ แต่จริง ๆ แล้วทุกคนสามารถหาท่าออกกำลังกายที่ชอบและเหมาะกับตัวเองได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นท่าท่าแบบไหนดัมเบลขวดน้ำก็ย่อมเป็นตัวตายตัวแทนของดัมเบลได้เสมอ
.
นอกจากการเวทเทรนนิ่งแบบเพียว ๆ แล้ว การใช้ดัมเบลขวดน้ำยังสามารถนำมาผสมผสานกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น การเต้นแอโรบิคเพื่อช่วยเผาผลาญไขมันและเพิ่มมวลมวลกล้ามเนื้อในเวลาเดียวกันก็ได้เช่นกัน
.
ซึ่งโรงเรียนที่ร่วมโครงการอย่าปล่อยให้เด็กอ้วนลด หวาน มัน เค็ม เพิ่มผักและผลไม้ ได้ใช้ดัมเบลขวดน้ำในการเป็นนวัตกรรมการออกกำลังกายที่ให้น้อง ๆ นักเรียนได้ใช้ออกกำลังกายเต้นประกอบเพลงที่เน้นให้น้อง ๆ สนุกและได้เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อในเวลาเดียวกัน
.
นอกจากจะมีกิจกรรมออกกำลังกายในโรงเรียนแล้ว โครงการอย่าปล่อยให้เด็กอ้วนรับสมัครน้อง ๆ อายุระหว่าง 8 - 12 ปี ทีมละ 3 - 5 คน Challenge กิจกรรมออกแบบท่าออกกําลังกายด้วยอุปกรณ์ผ้าขาวม้าลดพุงหรือดัมเบลน้ำ ประกอบเพลง (ไม่จํากัดเพลง และเพลงต้องไม่ติดลิขสิทธิ์)
Official Web : http://artculture4health.com/
Facebook : https://www.facebook.com/artculture4h
Youtube แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรม สร้างเสริมสุขภาพ : http://bit.ly/3YVFSl5
Instagram : https://www.instagram.com/artculture.4health/
Twitter : https://twitter.com/art_culture4h
Tiktok : https://www.tiktok.com/@artculture4health
แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ
Art & Culture for Health Literacy
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส)
ThaiHealth Promotion Founnation (THPF)
128/177 ชั้น 16 อาคารพญาไทพลาซ่า ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
128/177 Phayatai Plaza, 16th Fl., Phayathai Rd., Rajthevee, Bangkok 10400 Thailand
โทรศัพท์ : 02-129-3897-8 โทรสาร : 02-129-3899
อีเมล : [email protected]