อ.มานพ แย้มอุทัย ผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า "สสส. มีพันธกิจในการสร้างเสริมสุขภาวะ รวมถึงการรณรงค์ในการลดปัจจัยเสี่ยงที่มีต่อสุขภาพในด้านต่างๆ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน ที่จะเห็นได้ว่าปัจจุบันวิถีชีวิตที่รีบเร่งของพ่อแม่ผู้ปกครอง ทำให้ขาดการดูแลเอาใจใส่ในเรื่องการดูแลสุขภาพทั้งเรื่องโภชนาการและการออกกำลังกาย พ่อแม่ส่วนใหญ่ฝากลูกไว้กับร้านสะดวกซื้อที่เด็กสามารถเข้าถึงขนมกรุบกรอบ น้ำหวาน น้ำอัดลม ฯลฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง พฤติกรรมการบริโภคและการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปนี้เอง ทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือ NCDs (Non-Communicable diseases) ซึ่งกลายเป็นปัญหาสุขภาพใหญ่ของคนไทย ดังนั้น สสส. จึงเข้ามาสนับสนุนและร่วมทำงานในโครงการอย่าปล่อยให้เด็กอ้วนฯ นี้ เพื่อหวังให้เกิดความร่วมมือของทั้งโรงเรียน คุณครู ผู้ปกครอง รวมไปถึงชุมชน ในการช่วยกันสร้างสรรค์สื่อและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านความรู้ ความเข้าใจ รวมถึงพฤติกรรมด้านสุขภาวะของเด็กและเยาวชนที่เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม"
ด้าน อ.สง่า ดามาพงษ์ ที่ปรึกษากรมอนามัยและอุปนายกสมาคมโภชนาการ กล่าวว่า "วัตถุประสงค์ของโครงการนี้เราอยากตอบโจทย์ประเทศไทย ว่าทำไมเด็กไทยถึง เตี้ย-อ้วน-ไอคิวต่ำ ทุกวันนี้คนไทย 73% เสียชีวิตด้วยกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือ NCDs (Non-Communicable diseases) ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพที่มีผลสืบเนื่องมาตั้งแต่เด็ก โดยสถิติถ้าเราปล่อยให้เด็กในวัยอนุบาลอ้วน จะมีโอกาสกลายเป็นผู้ใหญ่อ้วนถึง 30% และถ้าเราปล่อยให้เด็กในวัยประถมและมัธยมอ้วน จะมีโอกาสกลายเป็นผู้ใหญ่อ้วนถึง 80% ดังนั้น ถ้าเราลดปัญหาเด็กอ้วนได้ การเกิดโรค NCDs ของกลุ่มผู้ใหญ่ในอนาคตก็จะลดลง ที่ผ่านมาเราพบว่าปัญหาสำคัญที่ทำให้เด็กอ้วน เกิดจากการสื่อสารเรื่องสุขภาวะที่ไม่แข็งแรงพอ ไม่เหมาะสมกับเด็ก ดังนั้นโครงการนี้จึงมุ่งที่จะพัฒนาคุณครูในการสร้างกิจกรรมและสื่อสร้างสรรค์ที่ทำให้เด็กได้รับการสื่อสารที่เหมาะสมกับวัย ผ่านการปรับพฤติกรรม 3 อ. คือ อาหาร อารมณ์ ออกกำลังกาย เป็นการสร้างความฉลาดรู้ด้านสุขภาพหรือ Health Literacy ให้กับเด็กไทยอย่างยั่งยืน"
ในส่วนของ นางบุปผาศิริ ไชยมงคล หน่วยศึกษานิเทศก์ สำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า "กรุงเทพมหานคร กับ สสส. เปรียบเสมือนเป็นองค์กรพี่น้องกัน เมื่อทาง สสส. จัดทำโครงการดีๆ แบบนี้ขึ้นมา นับว่ามีประโยชน์อย่างมาก เพราะคุณครูที่มาอบรม จะได้รับความรู้และทักษะใหม่ๆ ที่สามารถนำไปจัดทำโครงการ สร้างกิจกรรม รวมถึงผลิตสื่อการเรียนการสอนให้กับเด็กๆ ในโรงเรียนในเรื่องนี้ได้อย่างเห็นผลจริง ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครให้ความสำคัญกับปัญหาเด็กอ้วนเกิน ผอมเกิน ผ่านทั้งการจัดทำโครงการอาหารเช้า โครงการอาหารกลางวัน โครงการเด็กไทยอ่อนหวาน ฯลฯ เราคาดหวังว่าโครงการอย่าปล่อยให้เด็กอ้วนฯ นี้ จะเป็นอีกโครงการหนึ่งที่มาช่วยเติมเต็มทำให้เด็กในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครพ้นจากปัญหาตรงนี้ไปได้"
แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ
Art & Culture for Health Literacy
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส)
ThaiHealth Promotion Founnation (THPF)
128/177 ชั้น 16 อาคารพญาไทพลาซ่า ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
128/177 Phayatai Plaza, 16th Fl., Phayathai Rd., Rajthevee, Bangkok 10400 Thailand
โทรศัพท์ : 02-129-3897-8 โทรสาร : 02-129-3899
อีเมล : artculture4health@gmail.com