การไปดูให้เห็นกับตา ถือเป็นการเรียนรู้อีกรูปแบบหนึ่งที่ได้ผลดีที่สุด เพราะการได้ไปดู คือการได้ไปคุย ไปถาม ไปซักจนเข้าใจ ก่อนเราจะนำมาเลียนแบบ ทำตามอย่าง เพื่อให้ได้ผลอย่างเดียวกัน
เมื่อวันที่ 10-11 สิงหาคมที่ผ่านมา นางสุมาลี สุวรรณกร ประธานเครือข่ายสื่อศิลปวัฒนธรรมชุมชนอีสาน แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. พร้อมทั้ง ผศ.ดร.ทรงวิทย์ พิมพะกรรณ์ เลขานุการเครือข่ายฯ ได้พาองค์กรเครือข่ายภาคประชาชนและองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ไม่ว่าจะเป็นชาวชุมชนศรีฐาน เทศบาลนครขอนแก่น ตัวแทนจากชุมชนสาวะถี ตำบลสาวะถี และตัวแทนชุมชนท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมผู้บริหารเทศบาลตำบลท่าพระคือ ท่านนายกฯพิสุทธิ์ อนุตรอังกูร และเครือข่ายเข้มแข็งภาครัฐอย่างศูนย์วัฒนธรรม มหาวิทยลัยขอนแก่นนำโดยท่าน อ.บัญชา พระพล ไปศึกษาดูงานการจัดการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ถนนไดโนโรด อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อไปดูรูปแบบการจัดการท่องเที่ยวที่มีชุมชนเป็นต้นแบบและมีชุมชนเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนจนกระทั่งมีการบริหารจัดการทั้งองค์ประกอบของชมรมผู้ประกอบการท่องเที่ยวสหัสขันธ์ที่มีคุณชมพิศ ปิ่นเมือง เป็นประธาน มีชมรมโฮมสเตย์ที่มีคุณพ่อสหัส อรรถเนติกุล เป็นประธาน และคุณแม่ต้อที่ดูแลเรื่องการจัดการบนถนนไดโนโรด ทั้งการบริหารจัดการการตักบาตรพระทุกวันเสาร์ในสโลแกน นุ่งซิ่นนั่งสาดตักบาตรทุกวันเสาร์ ที่กำลังเป็นที่สนใจไปทั่วประเทศ เพราะทำกันเป็นประจำทุกวันเสาร์มาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว จนทุกวันนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาพื้นที่ทุกสัปดาห์ เพราะคนไทยกำลังโหยหารากเหง้า โหยหาอดีต ทำให้วิถีเก่า วิถีเดิม ๆ กำลังเป็นที่สนใจ
การประสานความร่วมมือของภาคประชาชนที่มีองค์กรการเมืองท้องถิ่นคือเทศบาลตำบลโนนบุรีเข้ามาหนุนเสริม ทำให้เกิดความเข้มแข็งและและยั่งยืน ประกอบกับมีโรงเรียนนสหัสขันธ์ศึกษาที่นำเด็กนักเรียนมาเติมเต็มด้วยยิ่งทำให้ภาพงาม ๆ ปรากฎชัดต่อสายตาผู้ไปเยือน เพราะเด็กนักเรียนที่หญิงนุ่งซิ่น เกล้าผมมวย ทัดดอกลีลาวดีและมีผ้าสไบตุ้มอก เป็นภาพที่งดงามยิ่ง ส่วนนักเรียนชายก็นุ่งโสร่ง มัดผ้าขาวม้า ได้ใจคนไปเยือนจริง ๆ
วิถีที่กลายเป็นกิจวัตรมันทำให้หลายคนอยากไปศึกษาประกอบกับโครงการปลุกใจเมืองหรือสปาร์คยู ที่ได้ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นทั้ง 3 พื้นที่ กำลังจะขับเคลื่อนไปสู่การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่หวังให้ชุมชนนำเอาสิ่งดี ๆ ที่มีอยู่ของตนเองออกโชว์ให้คนที่สนใจเห็น
โดยเฉพาะชุมชนศรีฐานเทศบาลนครขอนแก่นที่ทำโครงการปลุกใจเมืองด้วยการ "สืบค้นเมืองเก่าบ้านเราศรีฐาน" ที่ดำเนินการมาปีนี้เป็นปีที่ 2 และได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก สสส. ได้ค้นพบตัวตนของตัวเองและกำลังจะโชว์ของดีให้ชาวบ้านได้ดู พร้อมกับจะจัดกิจกรรมนุ่งซิ่น นั่งสาดตักบาตรทุกวันอาทิตย์เช่นกัน จึงอยากจะไปดู ไปเรียนรู้ ไปซัก ไปถาม เพื่อนำเอาแบบอย่างที่ดีงามกลับมาใช้ที่บ้านเรา โดยมีเทศบาลนครขอนแก่นสนับสนุนงบประมาณในการจัดพาชาวชุมชนของเทศบาลกว่า 70 ชีวิตไปดูร่วมด้วย
งานนี้ผลการดำเนินการคงต้องใช้เวลา แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องใช้เวลานั่นคือความเป็นเครือข่าย ความเป็นพี่น้อง และเสน่ห์ความเป็นอีสานคือน้ำจิตน้ำใจมิตรไมตรีได้เชื่อมถึงกันแล้วทั้ง 3 พื้นที่ 3 ชุมชน
ขอบคุณชาวชุมชนโนนบุรีสหัสขันธ์ที่เอื้อเฟื้อและให้ข้อมูลกันอย่างหมดเปลือกพร้อมกับจะคอยเฝ้าติดตามและเป็นกำลังใจให้กับคณะศึกษาดูงาน พร้อมกับยินดีจะเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาและพร้อมจะเดินทางมาให้กำลังใจด้วย
แล้วเราจะก้าวไปด้วยกันขอพลังจงมีแก่พวกเราทุกคน มาร่วมปลุกใจเมือง ปลุกใจคุณ และปลุกใจเราไปด้วยกันค่ะ